“ซัวเรซ”ซัดชัยตราหมีเชือดโอซาซูน่า2-1นำฝูงต่อ
แอตเลติโก มาดริด ยังคงรักษาโอกาสคว้าแชมป์ลา ลีกา ไว้ในมือตัวเองได้ เมื่อพลิกแซงกลับมาเอาชนะ โอซาซูน่า 2-1 รั้งจ่าฝูงนำ เรอัล มาดริด อยู่ 2 แต้ม
ศึกฟุตบอล ลาลีกา รองสุดท้ายของฤดูกาล เป็นการพบกันระหว่าง แอตเลติโก มาดริด เปิดรังเหย้า ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน ต้อนรับการมาเยือนของ โอซาซูน่า
ดีเอโก้ ซิเมโอเน กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามประสานแนวรุกเป็น อังเคล คอร์เรอา, หลุยส์ ซัวเรซ และ ยานนิค การ์ราสโก้
ด้านทีมเยือนของ ฆาโกบา อาร์ราซาเต้ วางหมากมาในแผน 4-4-1-1 ใช้หน้าต่ำเป็น รูเบน การ์เซีย ทำเกมรุกร่วมกับหน้าเป้าอย่าง อันเต้ บูดิมีร์
ผลปรากฏว่า เกมในช่วง 45 นาทีแรก แม้ว่าฝั่งของแอตเลติโกเป็นฝ่ายพับสนามบุกอยู่แทบจะข้างเดียว แต่ก็ยังไม่เฉียบคมพอที่จะพังประตูขึ้นนำได้เลย ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง ถึงนาที 75 กลายเป็น โอซาซูน่า ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ออกบอลมาทางฝั่งซ้ายให้ รูเบน การ์เซีย ได้ครอสเข้าไปให้ทาง อันเต้ บูดิมีร์ ได้โขกที่เสาสอง ยาน โอบลัค สามารถควักบอลออกมาได้แล้ว แต่บอลมันข้ามเส้นไปเต็มใบแล้ว ทำให้ลูกนี้เป็นประตู แต่นาที 81 ตราหมี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 จากสองตัวสำรอง ในจังหวะที่ ชูเอา เฟลิกซ์ ตักบอลมาให้ เรนาน โรดี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกดด้วยซ้ายแซกหน้าโกล์เข้าประตูไป ช่วงท้ายเกมในนาที 88 ตราหมี มาได้ประตูพลิกแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ การ์ราสโก้ ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนจะปาดเข้าในมาให้ทาง ซัวเรส ได้วิ่งมาแปด้วยขวาโล่งๆ ที่เสาสองเข้าประตูไป
จบเกม แอตฯมาดริด พลิกแซงเอาชนะ โอซาซูน่า ไปได้ 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญทำให้พวกเขายังคงเป็นจ่าฝูงของลา ลีกา สเปน และขอแค่ชัยชนะอีกเพียงแค่เกมเดียว พวกเขาจะเป็นแชมป์ทันที โดยไม่ต้องสนผลการแข่งขันของ เรอัล มาดริด
ผลคู่อื่นๆ
เรอัล เบติส 1 – 0 อ้วยส์ก้า
แอธเลติก บิลเบา 0 – 1 เรอัล มาดริด
แอตเลติโก มาดริด 2 – 1 โอซาซูน่า
เดปอร์ติโบ อลาเบส 4 – 2 กรานาด้า
บาร์เซโลน่า 1 – 2 เซลต้า บีโก้
กาดิซ 1 – 3 เอลเช่
เกตาเฟ่ 2 – 1 เลบันเต้
เรอัล โซเซียดาด 4 – 1 เรอัล บายาโดลิด
บาเลนเซีย 4 – 1 เออิบาร์
บียาร์เรอัล 4 – 0 เซบีย่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news