มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันฯ มอบเงิน 2 ล้านบาท จัดซื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด โดยคุณบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด , คุณวิชัย เบญจรงคกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด และ คุณจุฑามาศ เบญจรงคกุล กรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ร่วมมอบเงินบริจาคให้กับมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ โครงการศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท โดยมี ศาตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นผู้รับมอบ ณ อาคารสำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
นอกจากนี้ คุณวิชัย และ คุณจุฑามาศ เบญจรงคกุล ได้มอบเงินสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ โครงการศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จำนวนเงิน 1,000,000 บาท
คุณบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด กล่าวว่า โรงพยาบาลวิจัยจุฬาภรณ์ และ บริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด อยู่ใกล้กัน จึงมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือ รพ.จุฬาภรณ์ และก่อนหน้านี้ได้เคยมอบเงิน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลศิริราชและกรุงเทพมหานคร มาแล้วส่วนหนึ่ง
พร้อมกันนี้ คุณบุญชัย ได้ฝากเชิญชวนพี่น้องประชาชน มาลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีน เพราะจะมีประโยชน์ในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่วนตัว อายุ 68 ปี และอยู่ในข่ายโรคกลุ่มเสี่ยง ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา แล้วแต่ก็ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
“ช่วยกันฉีดวัคซีนโดยเร็วเพราะตอนนี้ เรายิ่งเร็ว เรายิ่งจะทำให้การระบาดน้อยลง และเป็นการป้องกันตัวเราเองกับครอบครัวคนที่เรารัก และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ผมคิดว่าการฉีดนี้อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเพราะเป็นเรื่องที่เราทำให้กับสังคม เพราะอย่างน้อยตัวเราคนหนึ่ง เดินไปก็ไม่ใช่ตัวที่จะไปก่อปัญหาให้กับคนอื่นทำให้คนเขาติด เรากลับเป็นคนที่ทำให้สังคมมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะฉะนั้นเรียนเชิญชวนทุกคนนะครับว่า อย่ากลัวนะครับ ปีนี้ผม 68 ไม่กลัว”
ขณะที่ คุณจุฑามาศ เบญจรงคกุล กรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ระบุว่า วันนี้เป็นอีกภารกิจหนึ่งของ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ที่มามอบเงินให้กับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ ซึ่งสังกัดอยู่กับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภาระในการซื้ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และคิดว่าภารกิจนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับสังคม และทางโรงพยาบาลเอง ก็ต้องเตรียมการเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงเตรียมวัคซีน ในโอกาสนี้ก็อยากจะขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันรับการฉีดวัคซีนโควิด เพราะจะได้มีภูมิต้านทาน และการฉีดวัคซีนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้พา เยี่ยมชม ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งแต่เดิมเป็นศูนย์โรคหัวใจ โรคตา โรคผิวหนัง แต่ปัจจุบัน ได้ ปิดส่วนงานต่างๆ ไปอยู่ ที่ศูนย์มะเร็ง บริเวณด้านหน้า ติดถนนโรคัลโรด เพื่อใช้พื้นที่ ของศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ แห่งนี้ รองรับผู้ป่วยโควิด ที่ขณะนี้ กำลังตกแต่งสถานที่เพิ่มเติมเพื่อรองรับผู้ป่วย และจะเปิดให้บริการได้ ช่วงกลางเดือนมิถุนายน นี้ แต่ในช่วงนี้ ก็ มีการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยเช่นกันและการบริการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การให้บริการล้างไตสำหรับผู้ป่วยโควิด เพราะ สถานพยาบาลอื่น ไม่รับบริการ หากผู้ป่วยโควิดต้องล้างไต
ขณะที่ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวย้ำว่า สิ่งเดียวที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในขณะนี้ได้คือการฉีดวัคซีนโควิด เพราะจะป้องกันทั้งตัวเองไม่ให้รับเชื้อ ป้องกันคนที่เรารัก และที่สำคัญที่สุด ก็คือ จะช่วยรักษาชีวิตชีวาของสังคมไทยให้กลับมาเหมือนเดิมได้
“เพราะฉะนั้นวัคซีนจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้นะครับ ยิ่งรอช้าโอกาสที่เราจะติดเชื้อก็ยิ่งสูง โอกาสที่จะเสียชีวิตก็จะยิ่งสูง โอกาสที่สังคมและประเทศชาติและเศรษฐกิจของเราจะแย่ลงก็จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไร นะครับในขณะนี้ยิ่งได้เร็วยิ่งดี ทุกชนิดที่มีอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ เป็นวัคซีนที่ได้รับการดูแล้วพิสูจน์แล้วว่า ผลดีมากกว่าผลเสียเพราะฉะนั้นควรจะรีบไปรับกันทุกคน”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news