Home
|
ข่าว

นายกฯเบรกวอล์คอินฉีดวัคซีนสั่งศบค.ให้ข่าวที่เดียว

Featured Image
นายกฯ เบรก วอล์คอิน ฉีดวัคซีนโควิด หวั่นคนมาไม่ได้ฉีด ให้ยึดหมอพร้อม-กลุ่มเสี่ยงเป็นหลักก่อน ปรับปรุงแอปให้ดี สั่ง ศบค.ให้ข่าวที่เดียว คนอื่นอย่าเพิ่งพูด ถ้ายังไม่ได้ข้อสรุป

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้มีการหารือกันถึงประเด็นของการวอล์คอินเข้าไป ฉีดวัคซีนโควิด โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่อยากให้ใช้รูปแบบวอล์คอิน เพราะหากประชาชนแห่กันไปพร้อมกันที่จุดเดียว จะเกิดความชุลมุนขึ้นได้ ในต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหาอะไร

แต่ กทม. มีคนจำนวนมาก โดยอยากให้ปรับรูปแบบใหม่ ยกตัวอย่าง เช่น ให้ไปลงทะเบียน ณ จุดที่ตั้ง ซึ่งจะมีการกำหนดให้ชัดเจน ต้องใช้เวลา ตอนนี้ให้ยึดแอปพลิเคชั่นหมอพร้อมไว้ก่อน ให้คนที่ลงทะเบียนหมอพร้อมและกลุ่มเสี่ยง ได้ฉีดก่อน จึงขอให้หน่วยงานไปปรับปรุงและแก้ปัญหาแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม เพื่อให้พร้อมใช้ อย่าให้เกิดปัญหาประชาชนลงทะเบียนไม่ได้ จึงอยากให้หยุดพูดเรื่องวอล์คอินไปก่อนจนกว่าจะได้มาตรการที่ชัดเจน เดี๋ยวคนวอล์คอินเข้าไปแล้วไม่ได้ฉีดจะโวยวายเอา หากวัคซีนเพียงพอหรือเหลือค่อยมาจัดการกันใหม่ เรื่องวอลค์อินละเอียดอ่อน ต้องจัดการดีๆ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกำชับเรื่องการให้ข่าวที่ไม่ตรงกันเรื่องวัคซีนวอล์คอิน ว่า ไม่ต้องให้ใครให้ข่าว ให้ ศบค.เป็นคนให้ข่าวแห่งเดียว และอะไรที่ได้ข้อสรุปแล้วถึงค่อยออกมาพูด ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรี และอยากให้ทบทวนเรื่องวอล์คอิน เพราะถ้าคนเดินทางเข้าไปแล้วไม่ได้ฉีดจะเสียหาย จะด่ารัฐบาลอีก ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้อธิบายหรือพูดอะไรเลยนอกจากกล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ตามที่นายกฯสั่งการครับ”

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้พูดถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมที่เกิน 1 แสนราย ว่า อยากให้ดูตัวเลขว่าเป็นอย่างไร ผู้ติดเชื้อกี่คน หายป่วยกี่คน พยายามหามุมดีๆ มานำเสนอ ส่วนที่มีการเสนอให้ล็อกดาวน์นั้น คงเป็นไปได้ยาก เพราะเราจำเป็นต้องดูแลคนทำงาน ลูกจ้าง ตอนนี้ต้องดูว่าหลังผ่อนคลายมาตรการเปิดให้รับประทานอาหารในร้านได้ 25% ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้แล้วเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มาจากร้านอาหาร ก็อาจจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมเข้ามาอีก เช่น ขยายปริมาณนั่งรับประทานอาหารในร้าน แต่ถ้าพบว่ามีผู้ติดเชื้อจากร้านอาหารก็ต้องทบทวนอีกครั้งว่าอาจต้องปิดเป็นเวลา 14 วันหรือไม่

 

ขณะที่ เรื่องการแพร่ระบาดในเรือนจำนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า น่าจะจัดการไม่ยาก สามารถควบคุมได้อยู่แล้ว เพราะเรือนจำมีพื้นที่ชัดเจน แต่ขอให้กระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงสาธารณสุขประสานงานแก้ปัญหากันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังให้มีการยกเลิกทัวร์ริสต์บับเบิล หรือการท่องเที่ยวแบบจับคู่ที่รัฐบาลจะทำก่อนหน้านี้ออกไปก่อน เพราะสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

 

 

“อนุทิน” แจง จองรับวัคซีนโควิด -9 ยังเป็นช่องทางให้บริการหลัก ส่วน วอล์คอิน แค่ส่วนเสริม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย. ที่วัคซีนแอสตราเซนเนกา จะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยตามกำหนด แต่แม้ว่าการฉีดวัคซีนจะเป็นไปตามความสมัครใจ ก็ขอเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับตนเองคนในครอบครัวของท่าน และยังถือเป็นการช่วยชาติควบคุมโรค

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมแผนกระจายวัคซีน 3 รูปแบบหลักๆ คือ 1.ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม 2.โรงพยาบาล  นัดผู้ป่วยตามประวัติรักษาโรค และสำหรับผู้ที่ไม่มีมือถือ จะมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เคาะประตูบ้าน ลงทะเบียนให้ และ 3.การฉีดในองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยทำเรื่องส่งรายชื่อมายังกรมควบคุมโรค เพื่อจัดลำดับ นัดวันและสถานที่ เข้าไปรับการฉีด และอีกรูปแบบคือ องค์กรจัดเตรียมสถานที่ และออกค่าใช้จ่ายจ้างบุคลากรจาก รพ.เอกชนมาฉีด ทางกระทรวงฯ ก็จะส่งวัคซีนไปให้

ส่วนการวอล์คอิน เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 นายอนุทิน กล่าวว่า คนมีความต้องการฉีดมาก เพื่อความรวดเร็วพยาบาลจะเตรียมฉีดให้กับผู้ที่จองคิวไว้ในแต่ละวันแต่ต้องมาดูที่หน้างาน ถ้าคนที่จองคิวมาแล้ว พอถึงวันจริงอาจจะไม่ว่าง หรือ มาแล้วอาจจะไม่ได้ฉีด เช่น ความดันสูงเพราะตื่นเต้น รวมถึงบางคนอาจจะได้รับการฉีดจากช่องทางอื่นแล้ว เช่น บริษัทพาไปฉีดแล้ว ลงทะเบียนกับ อสม. และได้ฉีดไปแล้ว หรือต่างๆ ก็จะทำให้มีวัคซีน ซึ่งไม่ได้ใช้

และอย่างที่ทราบกันว่า วัคซีนไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ต้องหาทางนำมาบริการตามกำหนดเวลา ดังนั้น ก็จะนำส่วนนี้ฉีดให้กับผู้ที่วอล์คอิน ซึ่งไม่ได้จองคิวล่วงหน้าได้ แต่ถ้าวอล์คอินมาแล้วไม่มีวัคซีนว่างในวันนั้น ก็สามารถทำการนัดเพื่อมาฉีดในวันหลัง ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนรับบริการ จะได้รับสิทธิ์ก่อน ดังนั้น ขอให้ประชาชนลงทะเบียนตามระบบ ส่วนวอล์คอิน เป็นช่องทางเสริมเท่านั้น

สำหรับแผนการให้บริการวัคซีน ต้องปรับเปลี่ยนได้ ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง กระทรวงฯ รับแนวทางมาจาก ศบค. แต่ก็พร้อมเสนอแนวทางเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ถึงหน้างานเราก็ต้องปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมด้วย ทุกคนช่วยกันทำงาน

 

อนุทิน-หมอพร้อม

 

สธ. เปิดศูนย์ประสานงานข้อมูล “หมอพร้อม” เพิ่มเป็น 180 คู่สาย รับได้วันละ 20,000 สาย เริ่ม 31 พค. เป็นต้นไปลงทะเบียนกลุ่มอายุ 18-59 ปี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับมอบอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ประสานงานข้อมูลหมอพร้อม (Call center หมอพร้อม) จาก นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาชิกสภาอุตสาหอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่าประชาชนที่อยู่ในประเทศไทยจะได้รับวัคซีนโควิด 19 อย่างทั่วถึงทุกคน ตามความสมัครใจ ตั้งเป้าหมายครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของประชากร และได้จัดหาวัคซีนให้ได้ 150 ล้านโดส

พร้อมทั้งเปิดช่องทางให้ลงทะเบียนนัดฉีดวัคซีนด้วยไลน์ ออฟฟิเชียล แอปพลิเคชัน“หมอพร้อม”กลุ่มแรก คือ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค

และในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปอายุ 18-59 ปี ที่มี 31 ล้านคนลงทะเบียนได้ หากประชาชนมีข้อสงสัย ในการจองวัคซีนทางไลน์ แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” สอบถาม call center หมายเลข 0 2792 2333 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น.

 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา เปิดบริการ 20 คู่สาย มีผู้โทรปรึกษาวันละ 10,000 สาย รับได้ 500 – 1,000 สาย ขณะนี้ได้ขยายเพิ่มเป็น 120 คู่สาย ผู้โทรวันละ 5,000 สาย รับได้ 3,000 สาย และในวันพรุ่งนี้ (19 พฤษภาคม 2564) ภาคเอกชน จะร่วมให้บริการเพิ่มรวมเป็น 180 คู่สาย และได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดว่า เมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์จะสามารถให้บริการประชาชนได้วันละ 20,000 สาย

ขณะเดียวกัน ข้อมูลการจองวัคซีน เวลา 14.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 มีผู้จองผ่าน หมอพร้อมแล้ว 7,089,169 ราย แบ่งเป็น กทม. 764,606 ราย และต่างจังหวัด 6,024,563 ราย สำหรับประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีน นอกจากจะลงทะเบียนนัดวันผ่านไลน์/แอปพลิเคชัน หมอพร้อมแล้ว ยังสามารถแจ้งผ่านอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/ โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube