นั่งกินร้าน 3 วันกริบ WFH-คนยังผวาโควิดชุก
ผ่านมาแล้ววันที่ 3 หลังศบค. เปิดให้ลูกค้านั่งทานอาหารในร้านได้ไม่เกิน 25% ไม่เกิน 21.00 น. ร้านอาหารหลายร้านกลับมามีความหวังเรื่องยอดขายอีกครั้ง ว่าจะกลับมาขายดิบขายดี แต่ละร้านค้าได้จัดโต๊ะแบบเว้นระยะห่างและมีฉากพลาสติกกั้นตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขพร้อมกับติดป้ายเรื่องการจำกัดผู้ใช้บริการภายในร้านตามที่ศบค.ได้กำหนดไว้ แต่แม้ ศบค.จะ เปิดให้นั่งทานอาหารในร้านได้แต่ดูเหมือนบรรยากาศการซื้อขายยังไม่คึกคักตามที่ร้านค้าหลายร้านได้ตั้งความหวังไว้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการขายอาหารในย่านธุรกิจใจกลางเมืองย่านรัชดาภิเษกที่ตลาดละลายทรัพย์รัชดาซอย4 ซึ่งถือว่าเป็นย่านที่มีการจับจ่ายของพนักงานออฟฟิศและคนทั่วไปอย่างคึกคัก แต่พบว่าหลังจากที่ศบค.เปิดให้ทานได้ มีพนักงานบางส่วนนั่งทานในร้านเท่านั้น อีกบางส่วนได้ซื้อกลับไปทานยังที่ทำงาน
สาเหตุที่ส่วนใหญ่ร้านค้าในย่านนี้ยังไม่คึกคัก เนื่องจากว่าออฟฟิศสำนักงานได้มีนโยบายให้พนักงานนั้นทำงานที่บ้านจึงทำให้บรรยากาศการซื้อขายและการรับประทานอาหารค่อนข้างเงียบเหงา นอกจากนี้จากการสอบถามพนักงานที่มาใช้บริการในตลาดบอกว่ายังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์มากนัก อีกทั้งแม้จะให้มีการนั่งทานอาหารที่ร้านแต่นั่งได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้เลือกที่จะซื้อกลับไปนั่งทานที่โต๊ะทำงานมากกว่า ต้องออกมาทานด้านนอกลดความเสี่ยงได้อีกด้วย
ด้านร้านขายข้าวแกงบอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าปกติตลาดนี้จะมีคนเดินซื้อของพลุ่งพล่าน ตั้งแต่ช่วงเช้ายันช่วงเวลา 14:00 น. เนื่องจากในย่านนี้เป็นย่านของออฟฟิศทั้งพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ พนักงานไทยพาณิชย์ ออฟฟิศของบริษัททรู รวมถึงออฟฟิศอื่นๆ ที่อยู่ในย่านนี้จะมารับประทานอาหารที่นี่ในช่วงพักกลางวันอย่างคึกคัก แต่ในช่วงนี้บรรยากาศเงียบเหงาเนื่องจากออฟฟิศและสำนักงานต่างๆ ได้ทำงานที่บ้านตามนโยบายของรัฐบาล จึงทำให้บรรยากาศการค้าขายเงียบเหงาและแม้รัฐบาลจะเปิดให้นั่งทานที่ร้านได้แต่นั่งทานได้เพียงโต๊ะละคนเท่านั้น ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะซื้อกลับไปทานที่บ้านหรือกลับไปทานที่สำนักงาน แต่ร้านค้าในตลาดนี้ยังมีบริการเดลิเวอรี่ซึ่งก็จะมีพนักงานมารับส่งอาหารอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ศบค.ได้พิจารณาร่างผ่อนคลายมาตรการตามระดับพื้นที่ โดยปรับมาตรการในพื้นที่ “สีแดงเข้ม” (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) ปัจจุบันมี 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ อนุญาตให้นั่งทานอาหารในร้านอาหารได้ไม่เกิน 25% ของที่นั่ง และเปิดให้นั่งได้ถึง 21.00 น. สั่งกลับบ้านได้ไม่เกิน 23.00 น. ทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยินดีทำตามทั้งหมด ขอเพียงให้กลับมาเปิดขายอาหารแบบนั่งทานที่ร้านได้ก็พอ เพราะเป็นเพียงทางออกเดียวที่จะสามารถทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ร้านอาหารขนาดเล็กก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แม้จะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ตาม
ทั้งนี้ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรายย่อย พบว่ารายได้หายไปเหลือเพียง 20% ตั้งแต่มีการประกาศมาตรการควบคุมของรัฐบาลที่ห้ามไม่ให้นั่งทานอาหารที่ร้าน เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ายอดขายเหลือวันละ 300 ล้านบาท จากปกติสร้างเม็ดเงินสะพัดขายได้วันละ 1,400 ล้านบาท ถือว่าการกลับมาเปิดให้นั่งทานอาหารที่ร้านได้จะทำให้ร้านอาหารทั้งร้านเล็กและร้านใหญ่หรือแม้แต่ในห้างเริ่มใจชื้นขึ้นมา เนื่องจากมองว่าจะมีรายได้กลับมาอีกครั้งแม้สถานการณ์จะยังกลับไม่สู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าการควบคุมและปิดไปเลย ซึ่งต้องติดตามว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการผ่อนคลายหรือผ่อนปรนให้สามารถนั่งทานในร้านได้เต็ม 100% ได้หรือไม่เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและทำให้รายได้ของผู้ประกอบการกลับมาอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news