เหยื่อร้องตร.เร่งอายัดทรัพย์”ประสิทธิ์”หวั่นถูกยักย้าย
กลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 คน ที่ร่วมลงทุนกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก พร้อมทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้เร่งรัดคดีและออกคำสั่งไปยังกองบังคับการปราบปราม ในการยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการที่มีมูลค่าความเสียหายจากธุรกิจกว่า 209 บาท
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า จุดประสงค์ในวันนี้ต้องการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางออกคำสั่งถึงกองปราบปรามให้ติดตามเส้นทางการเงินของนายประสิทธิ์ที่อาจจะถูกโยกย้ายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ โดยขอให้ดำเนินการรวบรวมทรัพย์สินมาไว้ที่ส่วนกลางทั้งหมดเพื่ออายัดและแจกจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่จากกองปราบปรามระบุว่า ไม่กล้าอายัดทรัพย์สินจากคดีดังกล่าว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ตนเองต้องประสานมายังหน่วยงานนี้เพื่อขอให้มีการออกคำสั่ง โดยส่วนตัวเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากลักษณะการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ในช่วงปี 2563 – 2564 เชื่อว่าไม่มีธุรกิจใดสามารถดำเนินกิจการจนได้ผลกำไรและนำมาปันผลให้กับผู้ลงทุนในจำนวนมากเช่นนี้ ทั้งนี้ ขอให้ผู้เสียหายจากคดีดังกล่าวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทวงทรัพย์สินคืน
“วันนี้เดินทางมาทวงเงินคืนครับ และต้องการให้ทางกองบัญชาการสอบสวนกลางมีคำสั่งไปยังกองปราบปรามและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้เร่งติดตามเส้นทางการเงิน เส้นทางทรัพย์สินที่มีการยักย้ายถ่ายเทไปในช่วงก่อนที่จะเป็นข่าวไม่กี่วัน ยึดอายัดทรัพย์เอามาไว้ที่ส่วนกลางเพื่อรอเฉลี่ยคืนผู้เสียหายทั้งหมด ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหายังไม่เห็นว่าจะได้เงินคืนกันยังไง แต่ถ้าเกิดเรายึดทรัพย์สินได้ ผู้เสียหายมีโอกาสได้ทรัพย์สินคืนเต็มจำนวนทุกคน ส่วนใครที่ยังไม่ได้มาแจ้ง ถ้าอยากจะให้มีการเกลี่ยทรัพย์คืนก็ให้มาแจ้งความซะ เพราะธุรกิจตัวนี้เป็นธุรกิจที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เงินปันผลมาจากที่เราลงทุน ไม่ใช่มาจากการทำธุรกิจแล้วได้กำไรแล้วเอาปันผล และถ้าเกิดเราไม่มาแจ้งความ คนที่เขาหลอกก็ดีใจเลยเพราะไม่ต้องคืนเงินเรา ส่วนใครที่ตกเป็นเหยื่อไม่ว่าจะช่องทางไหนก็ตาม ให้เดินทางมาที่กองปราบปราม หรือปอศ.สาทร มาแจ้งความร้องทุกข์”
ด้านพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า เรื่องนี้มีผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ตำรวจตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งได้มีการเนินการตรวจสอบมาโดยตลอดและพบผู้เสียหายเพิ่มขึ้นกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงได้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นเข้ามาช่วยดำเนินการ สำหรับผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด ขณะนี้ได้ประสานกับตำรวจในพื้นที่ให้ช่วยสอบสวนแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เสียหายไม่ต้องเดินทางมาที่ส่วนกลาง ในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด ส่วนการยึดอายัดทรัพย์ได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินตามคำกล่าวอ้างของนายประสิทธิ์ ที่อ้างว่ามีอยู่หลายพันล้าน และจะแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น หากมีหลักฐานที่เชื่อมโยงก็จะดำเนินการทันที ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนซึ่งอาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม
สำหรับ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก นักธุรกิจชื่อดัง เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อเช้าวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามหมายจับในคดีที่ร่วมกับพวกรวม 6 คน ฉ้อโกงประชาชนฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในชั้นสอบสวนนายประสิทธิ์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และอ้างว่าไม่สามารถติดต่อกับนายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือ ผู้ต้องหาอีก 1คนที่ยังหลบหนี และเมื่อวันที่ 18 พ.ค. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ยื่นคำร้องฝากขังนายประสิทธิ์ต่อศาลอาญา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและ มีมูลค่าความเสียหายหลายพันล้าน อีก ทั้งนายประสิทธิ์ถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้ เกรงว่าหากได้รับการประกันตัวอาจจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือหลบหนีได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news