รวบหนุ่มควงอาวุธสงครามAK-47ยิงถล่มอริ
กองปราบตามรวบมือปืนควงอาวุธสงคราม AK-47 ยิงถล่มอริ กลางเมืองอุตรดิตถ์
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อภิชน ขันกา สว.กก.4 บก.ป, พ.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายชัยรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ 38/2561 ลงวันที่ 27 ก.พ.2561 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุอันสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน” โดยจับกุมได้ ที่บ้านพักพื้นที่หมู่ 1 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุเมื่อต้นปี 2561 นายชัยรัตน์ฯ (ผู้ถูกจับ) ซึ่งพื้นเพเป็นคนจังหวัดกระบี่ ได้รับการติตต่อจ้างวานให้ไปทำงานกับ นายอุดมพร หรือ หลวง (ถูกจับกุมแล้ว) ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยต่อมาในวันเกิดเหตุ นายอุดมพรฯ ได้ขับรถยนต์เก๋งมารับ นายชัยรัตน์ฯ และ นายพสิษฐ์ หรือจา (ถูกจับกุมแล้ว) ที่บ้านสวนของนายอุดมพรฯ โดยขอให้ไปช่วยยิงคู่อริของตน ซึ่งนายอุดมพรฯได้เตรียมอาวุธปืนอาก้า หรือ AK-47 พร้อมกระสุน และปืนขนาด 9 มม. มาด้วยในรถคันดังกล่าวที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันเดินทางไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงถล่มผู้เสียหายซึ่งนั่งทานอาหารอยู่ที่ร้านลาบเป็ดศรีสะเกษ ภายในตัวเมืองอุตรดิตถ์อย่างอุกอาจ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย หลังก่อเหตุทั้ง 3 คน ได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุและแยกย้ายกันหลบหนีความผิด ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้ออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้ง 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 ราย คือ นายอุดมพรฯ และ นายพสิษฐ์ฯ
สอบถามเบื้องต้น นายชัยรัตน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นจริง หลังจับกุม จึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์