ประวิตร ชี้ โฆษกภท.ไม่ควรตำหนินายกฯ ไม่ต้องคุย”อนุทิน” มองเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องรู้ ยันพรรคร่วมไม่ขัดแย้ง ด้าน “ภราดร” รับผู้ใหญ่ในพรรคติง
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นาย ภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นตัวถ่วงที่ทำให้การกระจายวัคซีนไปยังประชาชนล่าช้าว่า ส่วนตัวไม่ขอแสดงความคิดเห็น ก่อนจะย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ให้คิดเอาเอง เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกัน”
ส่วนการพิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึงแนวทางการกระจายวัคซีน เป็นเรื่องของ ศบค. ที่ผู้ดำเนินการ การบูรณาการทั้งหมดอยู่ที่ ศบค. อยู่แล้ว โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคล และไม่ต้องกำชับกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้ปรามลูกพรรค เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาตอบโต้ นายภราดร นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของโฆษกพรรค ที่จะมีความคิดเห็นออกมา
“ภราดร” รับผู้ใหญ่ในพรรค ติงโพสต์ FB ตำหนิกระจายวัคซีนของรัฐบาล เตือนให้ใช้วิธีการสื่อสารอื่นที่นุ่มนวลกว่านี้
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโพสต์เฟซบุ๊ก ต่อการบริการจัดการการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า ข้อความที่ตนโพสต์นั้น ต้องการชี้ให้เห็นถึงความไม่พร้อมของระบบหมอพร้อม ที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงระบบการจองฉีดวัคซีนได้ ไม่ใช่การตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ดี เหตุที่ตนเลือกโพสต์เฟซบุ๊กแทนการสื่อสารภายในรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้งนั้น เนื่องจากขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรยังไม่เปิดสมัย จึงไม่มีเวทีสื่อสาร
นายภราดร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่การบริหารการฉีดวัคซีนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าไม่มีวอร์กอิน แต่ให้ออนไซด์นั้น สงสัยว่า ระบบการทำงานแตกต่างกันตรงไหน เมื่อระบบวอร์กอิน คือ การเข้ารับวัคซีนที่จุดบริการโดยไม่ลงทะเบียนมาก่อน ซึ่งเหมือนกับออนไซด์ ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ คือ หาวิธีบริหารจัดการให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเรียกว่า เป็นวอร์กอิน หรือวิธีการใดก็ตาม
“ผมยอมรับว่าหลังจากที่โพสต์เฟซบุ๊ก มีผู้ใหญ่ในพรรคโทรศัพท์ มาหาตนเพื่อพูดคุยในกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งได้ชี้แจงรายละเอียดไปแล้วผู้ใหญ่ในพรรคระบุว่าให้ใช้วิธีการสื่อสารอื่นที่นุ่มนวลกว่านี้”
“สุชาติ” เดือด กรีด “ภราดร” เป็น ส.ส.อย่าคิดแค่พูดเอามัน หวังหาเสียง ต้องมีความรู้และความรับผิดชอบ ไม่ขอก้าวล่วงมีผู้ใหญ่ในภูมิใจไทยหนุนหลังหรือไม่
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส. จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ออกมาตำหนินายกฯเป็นตัวถ่วงการกระจายวัคซีน ว่า คุณพูดออกมาคุณรู้หรือยังว่าคุณได้วัคซีนเท่าไหร่ จึงจะเปิดให้ walk in จะพูดเอามันไม่ได้ คนเป็น ส.ส. ต้องมีวุฒิภาวะในการที่จะพูด ซึ่งตนไม่อยากพูดเรื่องนี้ เพราะเป็นน้องรู้จักกัน แต่การจะพูดอะไรต้องมีความคิด ต้องรู้ว่าการจะเปิดฉีดวัคซีน walk-in ตอนนี้มีวัคซีนในมือเท่าไหร่
อย่าง กระทรวงแรงงาน ได้วัคซีนมา 1 ล้าน 5 แสนโดส แต่ปรากฏว่า มีผู้ประกันตนใน กทม. 3 ล้าน 5 แสนคน ตนก็ต้องบริหารจัดการ สมมุติประกาศออกไปให้ walk-in ได้ ทุกคนก็มากันหมด ดังนั้นขอให้นำความจริงมาพูดกัน
เมื่อถามว่ากรณีที่นายภราดร ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ ถือเป็นการปกป้อง นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกนายกรัฐมนตรีเบรก เรื่องของการฉีดวัคซีน walk-in หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า การจะปกป้องอะไรต้องมีวุฒิภาวะในการพูด และพูดอะไรต้องรับผิดชอบคำพูด ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า มีวัคซีนกี่โดส แล้วจะเปิดให้ walk in ต้องคิดให้เป็น ถ้าคิดเป็นแล้ว ก็พูดเป็น ไม่อยากทะเลาะ เพราะรู้จักกันทั้งนั้น แต่ถ้าไม่พูดประชาชนที่คอยตามหรือคิดสนุกตาม ตนพูดในฐานะพื้นฐานคนทำงาน
“คนแห่ไปหมื่นคนแต่มีวัคซีนแค่ 1,000 แล้วจะตอบคำถามคนอีก 9,000 คนอย่างไร คำพูดคำจา ต้องมีวุฒิภาวะ ผมไม่อยากพูด เพราะรู้จักกันทั้งนั้น แต่ไม่พูดไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ผมกำลังจะทำกระจายฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ ซึ่งกระทรวงแรงงาน จัดจุด 45 จุด และมีการบริหารข้อมูล ผู้ประกันตนนัดเวลาล่วงหน้า ไม่ใช่ออกมาพูดเอาคะแนนเสียง พูดโดยให้คนเชียร์ แต่ไม่รู้จุดจบจะเป็นอย่างไร เราทำงานต้องมีแผน สามารถตอบแทนได้หมด”
พร้อมกันนี้ นายสุชาติ ไม่ขอก้าวล่วง ว่าเรื่องที่นายภราดร ออกมามีผู้ใหญ่ภายในพรรครู้เห็นหรือไม่ แต่ขอเตือนว่าหากเราเป็นส.ส. ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล การจะพูดอะไรต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง
พล.อ.ประวิตร กำชับ”สุชาติ”เร่งช่วยแรงงานเดือดร้อนโควิด กระจายวัคซีนกลุ่มเสี่ยง ให้มากที่สุด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปปฏิบัติราชการ แรงงานในการตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับแรงงานจังหวัด และสำนักงานในแรงงานต่างประเทศ โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ
โดย พล.อ.ประวิตรและคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เชิงรุกที่ผ่านมาซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือแรงงานทุกกลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที ทั้งการเยียวยาผู้ประกันตน การพัฒนาฝีมือแรงงานการเร่งกระจายวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงตามนโยบายของรัฐบาลในการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเน้นย้ำกระทรวงแรงงาน ในเรื่องการบริหารวัคซีน ร่วมกับคณะกรรมการกระจายวัคซีนแก่ผู้ประกันตน อย่างทั่วถึง การตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงสูงให้มากที่สุด การช่วยเหลือ เยียวยาต้องดำเนินการ อย่างต่อเนื่องเช่น โครงการ ม.33 เรารักกัน , ลดอัตราเงินสมทบ เป็นต้น รวมถึงให้กำกับดูแลการทำงานของแรงงานต่างด้าว โดยยึดถือมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับกระทรวงแรงงาน เร่งให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง ในฉนวนกาซาอย่างเร่งด่วนพร้อมขอให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดน ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
พล.อ.ประวิตรยัน ว่างงานเป็นล้านคนไม่จริง เตือนแรงงานเลี่ยงเดินทางไปทำงานประเทศเสี่ยง ไม่ตอบชะลอการ Walk in ฉีดวัคซีน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ภายหลังเป็น ประธานการประชุมติดตามมาตรการขับเคลื่อนการป้องกันและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า วันนี้ตนมาเยี่ยมกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้ดำเนินการที่เป็นการช่วยเหลือประชาชน และกลุ่มคนแรงงานของประเทศ รวมถึงแรงงานต่างด้าว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากโควิด-19 ซึ่งตนได้รับรายงานว่า กระทรวงแรงงานได้เตรียมการทุกอย่างทั้งที่พักผู้ป่วย ห้องไอซียู โรงพยาบาลสนาม รวมถึงการเยียวยาให้แรงงานที่ว่างงาน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีแรงงานว่างงานเป็นล้านคน นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุโดยยืนยันว่า ไม่จริง เพราะเขากลับเข้ามาทำงานกันแล้วมากมายและที่ว่างงานนั้นเป็นแต่ส่วนน้อย โดย กระทรวงแรงงานพยายามทำทุกอย่าง
ส่วนแรงงานชาวไทยที่บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุปะทะกันในฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล พล.อ.ประวิตร ระบุว่า กระทรวงแรงงานได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประเทศไทยโดยเร็วที่สุด และจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งจ่ายตามระเบียบให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในต่างประเทศอยู่แล้ว
โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ส่วนกลุ่มแรงงาน จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงนั้น ก็ขอให้ชะลอไปก่อน เรายังไม่ให้ไป แต่ถ้าไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยงก็สามารถไปได้ ส่วนคนไทยที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงขณะนี้ ได้ประสานให้เขาอพยพไปก่อน หากมีความปลอดภัยก็สามารถกลับไปใหม่ได้
ส่วนนโยบายการฉัดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 มีข้อบกพร่องอย่างไรหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ยังไม่มี เราเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะมีการกระจายจุดฉีดวัคซีนทั้งหมด 45 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 9 จังหวัด
ทั้งนี้ แนวคิดที่จะชะลอการ Walk in ให้ประชาชนฉีดวัคซีนนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและศูนย์บริหารสถานกาณร์โควิด-19 หรือ ศบค. ตนไม่ขอตอบ แล้วแต่ ศบค.หากว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
