ศบค.พบกัมพูชาเดินทางเข้าประเทศ 54 ราย มี 7 ราย เข้าแบบผิดกฎหมาย กำชับเข้มชายแดน ขณะ กทม. ควบคุมการระบาดได้แล้ว 8 แห่ง – จับตา 14 เขต
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยว่า มีการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศเป็นกลุ่มก้อนใหญ่โดยมาจากประเทศกัมพูชา 54 ราย ซึ่งมี 7 ราย เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายโดยช่องทางธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอดมินออนไลน์ จึงต้องให้ฝ่ายปกครองช่วยกันดูแลให้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการเปิดข้ามแดนอย่างถูกกฎหมายให้เข้ามาตามปกติแล้ว จึงขอความร่วมมือขอให้เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย รวมถึงยังคงมีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งหากใครทำผิดเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีอย่างเต็มที่ จึงเน้นย้ำบริเวณรอบชายแดนที่มีด่านจะต้องดูแลเพิ่มขึ้น
ซึ่งมี 36 คลัสเตอร์ ใน 25 เขต และมี 14 จุดหลักทั่ว กทม.ที่มีจุดเฝ้าระวังสูงสุด อาทิเขตดินแดง, เขตราชเทวี, เขตหลักสี่, เขตดุสิต, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตคลองเตย ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งกลุ่ม คือ ที่พักคนงานก่อสร้าง, ตลาดคลองเตย และชุมชนแออัดคลองเตย, เขตบางรัก, เขตสาธร, เขตพระนคร, เขตประเวศ, เขตบางกอกน้อย ซึ่งมีทั้งชุมชนแคมป์ก่อสร้างตลาด
โดยกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด คือ เขตห้วยขวาง, เขตบางเขน, เขตบางคอแหลม, เขตจตุจักร, เขตดอนเมือง, เขตบางซื่อ, เขตบางกะปิ ซึ่งมีแคมป์ก่อสร้าง และตลาด เป็นต้น
กลุ่มเฝ้าระวัง คือ เขตวัฒนา, เขตสวนหลวง, เขตจตุจักร, เขตราชเทวี ซึ่งมีร้านเฟอร์นิเจอร์, แคมป์คนงานก่อสร้าง และบริษัทไฟแนนซ์ เป็นต้น และมีพบใหม่ คือบางพลัด ที่มีแคมป์ก่อสร้าง โดยได้รับรายงานจากรองปลัด กทม. นำข้อมูลล่าสุด มีแคมป์คนงานครบทั้ง 50 เขต จำนวน 409 แห่ง รวมคนงานทั้งหมด 62,169 คน เป็นคนไทย 26,134 คน เป็นคนต่างชาติ 36,035 คน
และมี 8 แห่ง ที่สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว เช่น เขตทวีวัฒนา, เขตปทุมวัน, เขตสาทร, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตสัมพันธวงศ์, เขตจตุจักร, เขตลาดพร้าว และเขตสวนหลวง
ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวกับการระบาด เช่น ที่ปากคลองตลาดมีผู้ค้าและแรงงานต่างด้าวในตลาดติดเชื้อ แผงตลาดที่ติดกันเป็นกลุ่มก้อนและมีลักษณะแออัด และเขตสีลมบางรัก ผู้ค้าพลอยในตลาดพลอยบางรักเชื่อมโยงคลัสเตอร์จากจังหวัดจันทบุรี และมีการพักอาศัยในห้องเช่า คอนโดมิเนียมหลายแห่งในย่านบางรัก สาทร และใกล้เคียงกัน รวมถึงมีการเดินทางเชื่อมโยงกัน เป็นต้น
โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของ ศบค. เผยว่า กทม.และปริมณฑลมีแรงงานถูกกฎหมายกว่า 1.3 ล้านคน ซึ่งหากไม่จัดการจะมีปัญหา เนื่องจากแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมายจะเป็นผู้ที่ไม่อยู่นิ่ง คือ มีการหลบหนี และเคลื่อนย้ายบ่อยๆ, มีการไปอยู่กับแรงงานที่ถูกกฎหมาย และมีที่พักที่แออัด และทำให้ควบคุมโรคได้ยาก ที่ประชุมจึงเสนอสิ่งที่คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ เสนอคือ ให้มีศูนย์คัดแยกผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งควรจะได้พื้นที่เหมาะสมโดยแยกออกจากชุมชน อาจจะใช้คำว่าแคมป์ควอรันธีน ซึ่งในการพูดคุยตัวอย่างของกรณีโรงพยาบาลสนามอยู่ที่ทางจังหวัดปทุมธานี คือ การนำตลาดเก่าที่ไม่ได้ใช้มาใช้ทำโรงพยาบาลสนามและให้คนต่างด้าวมาอยู่ด้วยกัน และชุมชนก็ดูแลกัน มีรั้วรอบขอบชิดส่งข้าวส่งน้ำได้ ซึ่งโมเดลเช่นนี้กรุงเทพมหานครจะต้องรีบดำเนินการ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นหลาย 100 คน จากการทำการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ซึ่งจะต้องหาที่นอนให้คนกลุ่มนี้ และในทางกฎหมายให้มีมาตรการรองรับขยายการนิรโทษกรรม ให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อให้เข้าสู่ระบบการจ้างงานอย่างถูกต้อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news