เรือนจำหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเกินกว่า 10,000 คน แล้วและตัวเลขยังขยับขึ้นทุกวันทำให้ทุกจังหวัดวางมาตรการเชิงรุกตรวจเข้มผู้ต้องขังพร้อมฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเพราะการปฏิบัติงานนั้นต้องมีการหมุนเวียนกันอยู่ทุกวันทำให้อาจเกิดการเล็ดลอดของเชื้อได้ซึ่งวัคซีนน่าจะเป็นคำตอบของการควบคุมการระบาดในเรือนจำในขณะนี้ได้แม้อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะมีคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด 24 ชม. แต่โดยข้อเท็จจริงไม่สามารถทำได้ เพราะต้องไปอาบน้ำ กินข้าว และส่วนหนึ่งออกไปศาล ประกอบกับต้องไปกินข้าวเที่ยงที่ใต้ถุน ไม่มีใครปิดหน้ากากกินข้าวได้ เรื่องนี้จึงเป็นข้อจำกัด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้รับคลื่นระลอกสามมา โดยไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยการไม่รับผู้ต้องขังใหม่ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าถ้ารับมา เรือนจำต้องถูกคุกคามจากคนที่เข้ามาใหม่ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ได้สัมภาษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นามว่า นายไมตรี ไตรติลานันท์ ได้แสดงทัศนคติอย่างน่าสนใจว่าพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำสะสมทะลุ 90 รายจึงได้เปิดโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ พร้อมสั่งตรวจคัดกรองเข้มนักโทษใหม่ทุกราย รวมทั้งสวอปผู้ต้องขังอีก 2 พันกว่าคน โดยจะทำการแยกเป็นโซนไม่ให้อยู่ร่วมกัน ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมนั้นได้ทำการฉีดวัคซีนครบทุกคนแล้ว อีกทั้งยังเปิดโรงพยาบาลสนามอีก2แห่ง ที่กองพลพัฒนา ต.เขาหินซ้อน 100 เตียง และที่มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อีก 1 แห่ง สามารถขยายได้ประมาณ 150 เตียง
โดยระลอกเดือนเมษายนถึงปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมในจังหวัดทั้งหมดกว่า 600 ราย กลุ่มเสี่ยงที่การกักตัวอีก300กว่าราย และเสียชีวิตแล้ว 6 ราย มีโรคประจำตัว เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่คือ ไม่รู้ตัวว่าตนเองติดโควิด จึงไม่ได้มารักษาตัวก่อน ทั้งนี้มีผู้ลงทะเบียนจองวัคซีนโควิดประมาณ 200,000 คน นอกจากนี้ทาง สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ยังได้สัมภาษณ์ นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางจังหวัดได้มีการตรวจเชิงรุกภายในเรือนจำทั้ง 2 แห่ง มากว่า 3-4 เดือนแล้วโดยผู้ต้องขังที่เพิ่งเข้ามาจะตรวจเข้มเป็นพิเศษ ขณะล่าสุดพบผู้ต้องขังติดโควิดจำนวน1ราย ให้อยู่ห้องแยกทำการกักตัวเรียบร้อยแล้ว ขณะเจ้าหน้าที่ในเรือนจำอยู่ระหว่างการจัดสรรเตรียมฉีดวัคซีน ขณะเดียวกันรัฐบาลได้สั่งเร่งแก้ปัญหาโควิดเรือนจำทั่วประเทศ เบื้องต้นสั่งตรวจเข้มเชิงรุกทั้งสถานที่เสี่ยงและเรือนจำทุกจังหวัด โดยใช้แนวทาง Bubble and Seal ปิดกั้นการเดินทางเข้า-ออกไม่ให้เกิดการกระจายเชื้อสู่ภายนอก พร้อมกำชับให้ราชทัณฑ์ประสานงานกับสาธาณสุขในเขตพื้นที่ให้เข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงความปลอดภัยของผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำด้วยแม้จะเป็นผู้เคยกระทำผิดจนต้องขัง แต่เมื่อป่วยแล้วต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกันทั้งหมดอย่างไรก็ตาม ต้องติดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในเรือนจำนั้นที่ยกระดับการควบคุมขั้นสูงสุดว่าจะสามารถทำให้ผู้ติดเชื้อในเรือนจำลดลงได้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news