“งูใหญ่”ถล่ม”อูดิฯ”5-1ฉลองแชมป์กัลโช่ฯชื่นมื่น
อินเตอร์ มิลาน ปิดซีซั่นไร้แรงกดดัน ไล่ถล่ม อูดิเนเซ่ ขาดลอย 5-1 ชูถ้วยฉลองแชมป์ในบ้านเเละต่อหน้าแฟนบอลอย่างชื่นมื่น
การเเข่งขันฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดสุดท้ายของดูกาล 2020-21 ที่สนาม จูเซปเป้ เมอัซซ่า ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน เจ้าของแชมป์ซีซั่นนี้ พบ อูดิเนเซ่ ทีมอันดับ 13 ของตาราง
เกมนี้ “งูใหญ่” ของ อันโตนิโอ คอนเต้ มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงบางตำแหน่ง โดยแดนหน้าให้โอกาสกับ อันเดรีย ปานามอนติ กองหน้าวัย 22 ปี ลงจับคู่กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โดยที่ โรเมลู ลูกากุ อยู่ในม้านั่งสำรองไปก่อน
ผลปรากฎว่า เริ่มเกม 8 นาที อินเตอร์ ออกสตาร์ตสวยขึ้นนำ 1-0 แอชลี่ย์ ยัง ไหลเข้ากลางให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ พลิกยิงติดบล็อค เข้าทาง ยัง ที่วิ่งเข้าเขตโทษต่อเนื่อง ชิพข้ามตัว ฮวน มุสโซ่ จ่อๆ เข้าไป มีเจ็บจากจังหวะปะทะนิดหน่อย แต่ก็เล่นต่อได้
นาที 39 เจ้าบ้านต้องเสีย สเตฟาโน่ เซนซี่ มีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อ หวาดเสียวว่าจะพลาดยูโร 2020 ที่รออยู่ในเดือนหน้า คอนเต้ จึงต้องส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น ลงแทน
จากนั้น เนรัซซูรี่ มาได้ฟรีคิกระยะ 23 หลากลางประตูในนาที 44 เอริคเซ่น ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ปั่นเท้าขวาโค้งข้ามกำแพงเสียบตาข่ายตามสไตล์เป็น 2-0 ในครึ่งเวลาแรก
ครึ่งหลัง อินเตอร์ มาได้จุดโทษ อาชราฟ ฮาคิมี่ โยกหนี มาร์วิน ซีเกลาร์ เข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วโดนทำฟาวล์ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ซัดจุดโทษเข้าไปเป็น 3-0 ในนาที 55
สกอร์เปลี่ยนเป็น 4-0 ในนาที 64 มาติอัส เวชีโน่ ไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ อีวาน เปริซิช ปีกตัวสำรองที่เพิ่งลงมาได้ 7 นาที ปั่นเท้าขวาเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม
นาที 71 มีประตูแปลกๆ เกิดขึ้นเป็น 5-0 ของเจ้าบ้าน เริ่มจาก เวชีโน่ ผ่านเข้ากลางให้ โรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวสำรองวิ่งมาแปจ่อๆ วืด แต่ยังมี อเล็กซิส ซานเชซ สำรองอีกคนตามไปเก็บฝั่งซ้าย แล้วปั่นโค้งไปชนเสาไกลกระดอนมาโดนหน้า ลูกากู ที่ยืนอยู่ตรงเส้นประตูเข้าไป
อูดิเนเซ่ มาได้ประตูปลอบใจ 1-5 ในนาที 79 จากจุดโทษที่เช็กย้อนหลังโดนวีเออาร์ว่าบอลไปโดนมือ เอริคเซ่น ในเขตโทษ โรแบร์โต้ เปเรย์ร่า จึงรับหน้าที่สังหารไม่พลาด จบเกม อินเตอร์ ฉลองแชมป์อย่างชื่นมื่นด้วยชัยชนะในเกมสุดท้ายเหนือ อูดิเนเซ่ 5-1
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news