คุม62นักปาร์ตี้เสพยาย่านรามคำแหงส่งฟ้อง
ตำรวจวังทองหลาง คุมตัวผู้ต้องหา แก๊ง ปาร์ตี้ มั่วสุมเสพยาย่านรามคำแหง ไม่กลัวโควิด ส่งฟ้องศาลแขวง – เจ้าของอ้างไม่เกี่ยวจัดงานเลี้ยง ต่อมา ศาลได้สั่งจำคุก และปรับหลักหมื่น
พนักงานสอบสวนสน.วังทองหลาง นำผู้ต้องหา 62 คน ซึ่งกระทำความผิดในข้อหาฝ่าฝืนประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีการรวมกลุ่มบุคคลจำนวนมากกว่า 20 คน โดยมิได้ขออนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งให้ปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ, มีสารเสพติดในร่างกาย จากกรณีรวมกลุ่มกันมั่วสุมจัด ปาร์ตี้ สังสรรค์เสพยาติด ในสถานซาวน่า ซอยรามคำแหง 21 แยก 2
สำหรับผู้ต้องหา 62 คน แบ่งเป็น 61 คน คือผู้ใช้บริการ จำนวนนี้มี 27 ราย ที่ผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง
ส่วนอีก 1 คน คือนายจิณนะ อายุ 63 ปี เป็นเจ้าของร้านซาวน่าดังกล่าว ถูกดำเนินในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งกรุงเทพมหานคร เรื่องการห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคฯ, ฝ่าฝืนคำสั่งให้ปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ร.บ.โรคติดต่อ, ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ จะมีการควบคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นในส่วนของผู้ใช้บริการ ไปยังศาล โดยจะแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งจะคุมตัวไปส่งฟ้องยังศาลแขวงพระนครเหนือ ส่วนอีกชุดหนึ่งจะคุมไปฝากขังที่ศาลอาญา ขึ้นอยู่กับข้อหาของแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายจิณนะ เจ้าตัวได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ตำรวจจึงจะนำเพียงสำนวนคดีไปแถลงต่อศาลเท่านั้น เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า เป็นเพียงผู้ให้เช่าสถานที่รายวัน โดยไม่มีส่วนร่วมกับการจัดปาร์ตี้และจำหน่ายสุราให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
ขณะที่ การคุมตัวผู้ต้องหาอีก 61 คนที่เหลือไปขออนุญาตศาลฝากขังนั้น พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก. สน.วังทองหลาง ระบุว่า ได้มีการนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ผลปรากฎเป็นลบ พนักงานสอบสวนจึงจะนำตัวทั้งหมดไปยังศาลตามขั้นตอนปกติ
ฝากขังแก๊งปาร์ตี้ยาไม่กลัวโควิด ศาลสั่งคุก-ปรับอ่วมหลักหมื่น โชคดีรอลงอาญาแต่ต้องบำเพ็ญประโยชน์
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ยื่นฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต่อ นายสุรัช อายุ 41 ปี และนายณธัชพงศ์ อายุ 38 ปี สองผู้ต้องหาคดีจัดปาร์ตี้ เสพยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยยื่นฝากครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. – 4 มิ.ย. 2564 เนื่องจากจะต้องสอบพยาน อีก 7 ปาก, รอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง, รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา พร้อมคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
จากกรณี ตำรวจพบมีกลุ่มวัยรุ่นลักษณะชายรักชายมามั่วสุมเสพยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์กัน จึงเดินทางไปตรวจสอบภายในร้าน พบนายสุรัช ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่าร้านได้เปิดให้บริการ โดยคิดค่าเข้าใช้บริการ 200 บาท เมื่อนายสุรัชเห็นตำรวจหลายนายอยู่ด้านนอก จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในร้าน ตำรวจวิ่งติดตามจนควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ตรวจค้นภายในร้านพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) น้ำหนักรวมถุง 0.82 กรัม 1 ถุง เข็มฉีดยาขนาด 1 มล. 4 เข็ม ขณะที่ลูกค้าหลบหนีไปตามห้องต่างๆ ตำรวจสามารถควบคุมตัวนายณธัชพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 1 เม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ,เข้าร่วมการชุมนุมทำกิจกรรมที่มีความแออัด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และอาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลอาญาพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาที่ 1-2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาในเหตุการณ์เดียวกันอีก 59 ราย รวมทั้งหมดเป็น 61 ราย โดยผู้ต้องหาที่เหลือ 59 คน แยกไปดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่ง ทำการยื่นฝากขังและฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลแขวงพระนครเหนือ โดยกลุ่ม 59 คนนี้ ให้การรับสารภาพเช่นกัน
ศาลแขวงพระนครเหนือ จึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27, 29 , 31-59 มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9, 18 และจำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ มาตรา 57, 91
การกระทำของจำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำคุกจำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27, 29, 31-59 คนละ 1 เดือน ปรับคนละ 20,000 บาท ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกจำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27 คนละ 6 เดือน ปรับคนละ 10,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27, 29, 31-59 คนละ 7 เดือน ปรับคนละ 30,000 บาท
จำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27, 29, 31-59 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27 คนละ 3 เดือน 15 วัน ปรับคนละ 15,000 บาท และคงจำคุกจำเลยที่ 29, 31-59 คนละ 15 วัน ปรับคนละ 10,000 บาท
ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติ จำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27 มีกำหนด 1 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี และให้จำเลยที่ 1-4, 8-14, 17-27 กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง
สำหรับจำเลยอีก 7 คน คือจำเลยที่ 5, 6, 7, 15, 16, 28, 30 ให้การปฏิเสธ ตำรวจ สน.วังทองหลาง จึงยื่นผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง7 เป็นหมายเลขคดี ผ436/2564 ข้อหา พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ – เมทแอมเฟตามีน (เสพ),ความผิดต่อพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีกำหนด 6 วัน นับตั้งแต่ 24 – 29 พ.ค. 2564 และยื่นผัดฟ้อง นายจิณณะ (เจ้าของร้าน) ข้อหา ความผิดต่อพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548, พระราชบัญญัติสุราฯ และพระราชบัญญัติโรงแรม มีกำหนด 6 วัน นับตั้งแต่ 24 – 29 พ.ค. 2564
ผบ.ตร. สั่งกวดขันห้ามมั่วสุ่มปาร์ตี้-พนัน เสี่ยงแพร่ระบาดโควิด-19 และอยู่ระหว่างรอผลตรวจปาร์ตี้รามคำแหง21
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย มาตรการป้องกันการจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถือเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงนี้
โดยเฉพาะล่าสุด ได้จับกุมปาร์ตี้ในซอยรามคำแหง 21 แยก 2 พื้นที่ นครบาลวังทองหลาง จำนวน 57 คน ว่า ได้มีการดำเนินคดีและนำตัวส่งฟ้องศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่า มีใครติดเชื้อหรือไม่โดยอยู่ระหว่างรอผล
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่าในส่วนการป้องกันพฤติกรรม หรือการจัดปาร์ตี้ หรือการรวมตัวกันที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ถือเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย หากทางตำรวจสืบทราบ หรือพบเห็นการกระทำผิดก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย บางกรณีที่ตำรวจพบ หรือประชาชนแจ้งเบาะแสมาก็จะต้องดำเนินคดีทุกราย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับมาตลอดว่าทั้งบ่อนการพนัน สถานบริการหรือแหล่งแพร่ระบาดอื่นๆ จะให้มีในพื้นที่นครบาลไม่ได้ ทุก สน.ต้องกวดขันและใส่ใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news