Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“เรืองไกร”ย้ายขั้ว อุดมการณ์หรือผลประโยชน์

“เรืองไกร”ย้ายขั้ว อุดมการณ์หรือผลประโยชน์

ภายหลังสภาผู้แทนราษฎร รับหลักการวาระแรก ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2565 ด้วยมติ 269 ต่อ 201 เสียง งดออกเสียง 2 คน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 72 คน ตามสัดส่วน ครม. 18 พรรคเพื่อไทย 15 พรรคพลังประชารัฐ 13 พรรคภูมิใจไทย 7 พรรคก้าวไกล 6 พรรคประชาธิปัตย์ 6 โดยมีชื่อของ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ในโควตาของพลังประชารัฐ สร้างฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะ”เรืองไกร” เป็นอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักษาชาติ เคยยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว และยื่น ปปช.ตรวจสอบ “3 ป.” มาหลายหน แต่กลับย้ายขั้ว สลับข้างมาช่วยงานรัฐบาลในครั้งนี้ หลังจากปีก่อนอกหัก ถูกถอดชื่อออกจากกรรมาธิการงบประมาณในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จนเกิดความขัดแย้งและแยกทางกันมานั่นเอง

“วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาลและในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงเพียงสั้นๆว่า “เรืองไกร” ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐมาร่วม 1 เดือนแล้ว ก่อนรับตำแหน่งในครั้งนี้ พร้อมยืนยันกรณีนี้ยังไม่น่าตกใจเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีเซอร์ไพรส์กว่านี้

เส้นทางการเมืองของ “เรืองไกร” นั้นต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกของสังคมด้วยการปรากฏเป็นข่าวในต้นปี พ.ศ. 2549 ว่า
กรมสรรพากรได้คืนเช็คให้ แต่นายเรืองไกรไม่ได้ไปขึ้นเงิน เพราะเป็นกรณีเปรียบเทียบกับ ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ขายหุ้นชินคอร์ปได้ เพราะนายเรืองไกรซื้อหุ้นทางด่วนกรุงเทพ ต่อจากบิดาในราคา 10 บาท จากราคาตลาด 21 บาท ต้องเสียภาษี แต่กรณีของตระกูลชินวัตร และดามาพงศ์กลับไม่ต้องเสียภาษี ทำให้นายเรืองไกร ยื่นฟ้องกรมสรรพากร กระทำการสองมาตรฐาน ทำให้ฝ่ายผู้สนับสนุน “ทักษิณ”ได้กล่าวหาว่า “เรืองไกร” มีความสนิทสนมกับคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และถือเป็นฝ่ายตรงข้าม แถมด้วยเป็นคนยื่นฟ้อง “สมัคร สุนทรเวช” จัดรายการโทรทัศน์ชิมไป บ่นไปจนต้องพ้นตำแหน่งนายกฯ ในยุคพรรคพลังประชาชน ก่อนที่ในปี 2553 “เรืองไกร” กลับเข้าร่วมเสวนากับกลุ่ม นปช. และสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย ในเวลาต่อมา

กระทั่งเลือกตั้ง พ.ศ. 2557 ลงสมัครบัญชีรายชื่อเพื่อไทย ลำดับที่ 41 แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นถูกล้มไปก่อน จากการชุมนุม กปปส. และภายหลังรัฐประหาร ของ คสช.”เรืองไกร” ซึ่งถูกเรียกรายงานตัวด้วย และเป็นที่มาของการ ตามตรวจสอบ คสช. และรัฐบาล 3 ป.มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมีการเลือกตั้ง 2562 ลงสมัครในนามไทยรักษาชาติและถูกยุบพรรค แต่”เรืองไกร” ก็ยังทำงานให้กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมาโดยตลอด โดยเพราะกรรมาธิการ ปปช. ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช เป็นประธาน ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ ยื่นฟ้องร้อง”บิ๊กตู่”พักบ้านหลวง และถูกฟ้องกลับจำนวนมาก ก่อนจะมาแตกหักกับเพื่อไทย เมื่อปีก่อน ซึ่งถูกถอดชื่อออกจากการเป็นกรรมาธิการงบประมาณ และทำให้เกิดอาการหมางเมินกันจะฟ้องร้องกับ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” และค่อยๆ ลดบทบาทลง ก่อนจะมีชื่ออีกครั้ง กลางสภาในสัปดาห์นี้และยอมรับผ่านสื่อเป็นครั้งแรกว่า ได้ยื่นสมัครสมาชิกพลังประชารัฐตั้งแต่ปลายเมษายนที่ผ่านมา แต่ก่อนที่จะลงเอยกับพลังประชารัฐนั้น มีพรรคอื่นมาชวนทำงานด้วยเช่นกันพร้อมยืนยันว่า แม้จะเป็น กมธ.ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ แต่จะยังคงเดินหน้าตรวจสอบเช่นเดิม พร้อมย้ำไม่กลัวใครอยู่แล้ว เป็นคนคนตรงไปตรงมา

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube