“อนุทิน” ยัน ตั้ง กก.สอบรพ.เลื่อนฉีดวัคซีนจริง ไม่ได้จะเอาโทษ แค่อยากรับรู้ปัญหาร่วมกันหาทางออก ย้ำมีแนวทางจัดสรรชัดเจน
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโรงพยาบาลที่ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน ว่า เป็นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนออกไป แต่ไม่ได้เพ่งโทษ เพียงต้องการรับทราบปัญหา เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน รวมถึงทำความเข้าใจกัน
นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางชัดเจนในการทยอยส่งวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามการพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. ดังนั้นวัคซีนขาเข้าทยอยเข้ามา ขาออกเราก็ทยอยส่งออกไป
โดยนายอนุทิน กล่าวต่อว่า การจัดสรรวัคซีน ทางกรมควบคุมโรคจะทยอยส่งไป จากนั้นให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างๆ ในการบริหารการฉีดให้เหมาะสมกับปริมาณวัคซีนที่ได้รับในแต่ละสัปดาห์
ทั้งนี้การวางแผนเพื่อป้องกันปัญหาและลดภาระของโรงพยาบาลนั้นๆในอนาคต เนื่องจากจะต้องมีการฉีดในเข็มที่ 2 ดังนั้น ต้องคำนวณเผื่อเรื่องนี้ด้วย งานจะได้ไม่โหลดจนเกินไป
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนั้นวัคซีนที่ใช้ใน 2 ยี่ห้อ ก็มีระยะเวลารับเข็มที่ 2 ต่างกัน เราจึงต้องบริหารให้ดี ส่วนเรื่องของวัคซีนก็มั่นใจได้ว่าเราจะเร่งทยอยส่งออกไป ของเข้ามาเมื่อไหร่ เราเก็บไว้ในมือก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่เราจะเร่งส่งไปฉีดให้เร็วที่สุด
“อนุทิน” แจงระยะห่างเข็ม 1-2 ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา ยึดหลักวิชาการ ฝากทุกคนต้องช่วยกันผลักดันฉีดวัคซีน วาระชาติให้ประสบผลสำเร็จ มีของเข้าต่อเนื่องไม่ขาดแคลน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงบรรยากาศการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 วานนี้ ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยดี มีความเรียบร้อย แม้จะมีบางจุดที่พบปัญหาบ้าง แต่ก็ต้องหาทางแก้กันไป ขอให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าเรื่องการให้บริการนั้น เป็นวาระแห่งชาติ เป็นภารกิจที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ทุกระดับต้องผลักดันให้สำเร็จ ต้องเป็นไปเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ทางฝ่ายบริหารพร้อมรับฟังข้อเท็จจริง ดังนั้นฝ่ายปฏิบัติงาน หากเกิดอุปสรรคในการให้บริการขอให้มาหารือ ช่วยกันคิดหาทางออก
ขอย้ำว่า ประเทศไทยจะมีวัคซีนเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนจำนวนที่แต่ละจังหวัด ที่แต่ละพื้นที่ได้รับ ให้เป็นการตกลงรวมกันระหว่างฝ่ายที่มีความต้องการคือจังหวัด และฝ่ายพิจารณาคือ ศบค.ส่วนกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ส่งลงไป เมื่อวัคซีนถึงแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของแต่ละจังหวัด ซึ่งทางผู้ว่าราชการ และทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ต้องวางแผนฉีดตามความเหมาะสม ซึ่งวัคซีนที่ให้บริการในช่วงเวลานี้ หลักๆ คือแอสตราเซนเนกา และซิโนแวค ขณะในอนาคต จะนำวัคซีนเข้ามาให้บริการเพิ่มเติม เพื่อให้บริการครอบคลุมประชาชนคนไทยมากที่สุด ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อมูลทางการแพทย์ และหลักวิชาการเป็นหลัก เช่นเดียวกับการเว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 1 และเข็ม 2 ก็อยู่ในการพิจารณาทางการแพทย์ และหลักวิชาการ สุขภาพประชาชนการจะตัดสินใจ ต้องมีข้อมูลรองรับอย่างครบถ้วน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news