เกมการแข่งขัน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2020” ที่แข่งขันระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน – 11 กรกฎาคม นี้
โดยคู่เปิดสนามเป็นการพบกันของ ทีมชาติตุรกี พบกับ ทีมชาติอิตาลี ที่สนามสตาดีโอ โอลิมปิค ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แข่งขันในคืนวันที่ 11 มิถุนายน นี้ เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
โดยผลงาน 5 นัดหลังสุด ของทั้งสองทีม ตุรกี ชนะ 3 เสมอ 2 ส่วน อิตาลี ชนะ รวดทั้ง 5 นัด
ขณะผลงานในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา ตุรกี ผ่านเข้ารอบสุดท้ายด้วยการคว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม H ที่มี 23 คะแนน จากการชนะ 7 เสมอ 2 และแพ้ 1 นัด ส่วนอิตาลี เป็นแชมป์ของกลุ่ม J ด้วยการชนะรวด ทั้ง 10 นัด
ความพร้อมเกมนี้ ตุรกี ชุดนี้นำทัพมาโดย คักลาร์ โซยุนชู กองหลังจากเลสเอตร์ ซิตี้ , ฮาคาน ชัลฮาโน กลู ห้องเครื่องเอซี มิลาน และ บูรัค ยิลมาซ ดาวยิงกัปตัน ที่ค้าแข้งกับ ลีลล์ ในลีกฝรั่งเศส
ส่วน อิตาลี ที่ขนดาวดังมาพร้อมหน้าในชุดนี้ไม่ว่าจะเป็น จานลุยจิ ดอนนารุมมา , เลโอนาร์โด้ โบนุชชี ,จอร์จินโญ , มาร์โก้ แวร์รัตติ, อันเดรีย เบ ล็อตติ , ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ และกัปตันทีมอย่าง จิออร์จิโอ้ คิเอลลินี่ เป็นแกนหลักใน ยูโร หนนี้
สำหรับเกมนี้ หากดูจากชื่อชั้นทีมและนักเตะ อิตาลี อาจดูเหนือกว่า ตุรกี พอสมควร ทว่าฟอร์มช่วงหลังตุรกี ถือว่าแข็งแกร่งพอสมควร ไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดต่อกัน ส่วนอิตาลี ที่ฟอร์มถือว่ายอดเยี่ยมยิงประตูเป็นกรอบเป็นกำ และยังรักษาคลีนชีตมาถึง 7 นัดติดต่อกัน
ตุรกี ชุดนี้มีจุดเด่นคือทีมเวริ์ค ที่ช่วยกันเล่นได้ดีทั้งรับและรุก ซึ่งช่วงเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา ยังสามารถชนะ ฮอลแลนด์มาได้ถึง 4-2 จึงทำให้ตุรกี กลายเป็นทีมจะประมาทไม่ได้ ซึ่งยังถูกยกให้เป็นม้ามืดลุ้นคว้าแชมป์ ในยูโร หนนี้อีกด้วย
ขณะจุดเด่นของ อิตาลี ชุดนี้กลายเป็นแนวรุกที่รอบคัดเลือก ยังทำไปได้ถึง 37 ประตู เป็นรองเพียงเบลเยียม ที่ทำไปได้ 40 ประตู ขณะจุดอ่อน อาจเป็นแนวรับที่ผู้เล่นรายคนมีอายุมากพอสมควร ซึ่งหากผ่านไปรอบลึกๆ อาจมีปัญหาเรื่องความฟิตก็เป็นได้ หลังลงเล่นมาทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาก่อนมาลุยต่อยูโร ทันที
อย่างไรก็ตาม ในนัดนี้ อิตาลี คงจัดหนักเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อชิง 3 คะแนนแรกของศึกยูโรหนนี้มาครอง และยังเป็นการได้ลงเล่นในประเทศตัวเอง จึงมีความได้เปรียบพอสมควร รวมถึงฟอร์มที่ไม่เสียประตูมาหลายนัด และ ยังยิงเฉลี่ยได้มากกว่า 2 ประตูในแต่ละเกม จึงมองว่าจะเป็น อิตาลี ที่ชนะ ตุรกี ไปได้ 2-0 และคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news