ศึกศักดิ์ศรี อัจฉริยะ vs ทนายษิทรา
หากพูดถึงความขัดแย้งในแวดวงการทนายความ ซึ่งเป็นที่รู้กัน ระหว่างทีมอเวนเจอร์ของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ที่โด่งดังจากการว่าความในคดีมหากาพย์ หวย 30 ล้าน ระหว่าง ลุงจรูญ และครูปรีชา จนลุงจรูญชนะคดี ซึ่ง ทนายตั้ม มีปัญหาความขัดแย้ง กับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ถึงแม้จะยังไม่ได้เป็นทนายความเต็มตัวแต่ก็กำลังศึกษาเรื่องกฎหมายอย่างเข้มงวด และมีทีมทนายความของชมรมฯ ให้คำปรึกษาในคดีต่างๆอย่างใกล้ชิด
ในอดีต ทั้ง นายอัจฉริยะ และ ทนายตั้ม ต่างก็เคยสนิทสนมรักใคร่กัน จากคดีหวย 30 ล้าน ที่ช่วยกันหาหลักฐาน เพื่อเอาผิดครูปรีชา แต่จุดแตกหัก ระหว่าง 2 คน เกิดขึ้นหลังจาก ทั้ง คู่ ได้ไปเที่ยวตลาดหัวหิน และมีการไลฟ์สดพูดคุยเรื่องไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยมีทนายรณรงค์ แก้วเพชร ร่วมทริปในครั้งนั้นด้วย
แต่หลังจากนั้น ด้วยหลากหลายปัจจัย ที่ทำให้ นายอัจฉริยะ และ ทนายตั้ม ถึงขั้นแตกหัก ประกาศผ่านสื่อในมือของตัวเอง และ โพสต์ข้อความโต้กลับกันไปมา ลุกลามมาถึงเรื่องของคดีความโด่งดัง ที่เกิดขึ้นและอยู่ในความสนใจของประชาชน หากใครคนใดคนหนึ่ง รับว่าความให้ ฝ่ายไหน อีกคน จะไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที
เช่นคดี น้องหญิงตกรถเทรลเลอร์ เสียชีวิตที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอัจฉริยะ อยู่ข้างครอบครัวของน้องหญิงเสียชีวิต ขณะที่ทนายตั้ม รับว่าความให้ นายอ๊อฟ ดาราคำ ซึ่งเป็นจำเลยในคดี ที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้น้องหญิงเสียชีวิต
หรือ คดีที่ เอมี่ อาเมเรีย ดารานักแสดง ตกเป็นจำเลยในคดีร่วมค้ายาเสพติดกับแฟนหนุ่ม โดยทนายษิทรา รับเป็นทนายความให้เอมมี่ จนกระทั่งศาลชั้นต้นสั่ง จำคุกเอมมี่ แค่ 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ต่อมา นายอัจฉริยะ ได้ร้องเรียน ข้อพิรุธในคดีนี้ ต่อ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในขณะนั้นว่า มีตำรวจสมคบทนายความ ปลอมเอกสาร ทำให้ข้อหาของเอมมี่ มีน้ำหนักเบาเกินไป จนทำให้เอมมี่ถูกจำคุกและรอลงอาญา จากคดีนี้ เป็นที่มาทำให้ศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับทนายตั้ม ในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
หรือแม้กระทั่ง คดีที่นายอัจฉริยะ ถูกรปภ. ของโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา แจ้งความที่ สภ. แปลงยาว รวม 5 ข้อหา จากกรณีที่นายอัจฉริยะ มีปากเสียงกับ รปภ. ที่ปฏิบัติงาน ที่ โรงงานดังกล่าวอย่างรุนแรง จนมีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียล
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ และ ทนายตั้ม ยังมีการฟ้องร้องกันไปมา ในชั้นศาล ในคดีหมิ่นประมาทอีกหลายสำนวน
ล่าสุด คดีดังระดับประเทศ อย่างการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ที่ ผู้คนในสังคม ต่างให้ความสนใจ เฝ้าติดตามมานานกว่า 1 ปี ว่า ตำรวจจะสามารถจับกุม ผู้ก่อเหตุ ได้หรือไม่ ซึ่งคดีนี้ นายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ก็ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ทำให้ ทนายษิทรา ออกตัว ก้าวเข้ามารับว่าความเป็น ทนายให้ฝั่งลุงพล พร้อมกับออกแอคชั่นทันที หลังจากวันที่ลุงพลถูกออกหมายจับ ด้วยการพามามอบตัว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ แม้กระทั่ง พาลุงพล เข้าพบ สส.สิระ เจนจาคะ เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
ขณะที่ นายอัจฉริยะ แถลงเปิดตัว นายวินัย ชุมสวัสดิ์ ทนายความและทีมงาน เพื่อช่วยเหลือทางคดี ให้กับ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือ แม่น้องชมพู่ ทั้งการเตรียมขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม หาก พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาล และดูคดีเรื่องของการหมิ่นประมาทครอบครัวของน้องชมพู่ด้วย แม้ นายวินัย อาจจะไม่ใช่ทนายที่มีชื่อเสียงเหมือนทนายตั้ม แต่ทว่า ฝีไม้ลายมือเรื่องของการว่าความก็ไม่เป็นสองรองใคร
ดูเหมือนว่า ศึกศักดิ์ศรีระหว่างนายอัจฉริยะและทนายตั้ม จะยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะ ต่างฝ่ายก็อ้างว่ามีหลักฐานเด็ดที่จะใช้ต่อสู้กันทั้งในชั้นของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และอาจรวมไปถึงในชั้นศาลด้วย
สุดท้าย หากมองว่า เรื่องความขัดแย้งของทั้ง 2 คน เป็นเกม ที่ ต้องต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเกมครั้งนี้ คงจะไม่จบลงอย่างง่ายดายนัก เพราะหากฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ อีกฝ่ายก็พร้อมที่จะขย้ำเหยื่อในทันที นับว่าเป็นศึกศักดิ์ศรีที่ต้องติดตามกันไปอีกยาวนาน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news