Home
|
ทั่วไป

ศบค.ยันชันสูตรปมตายหลังได้แอสตราฯพบหัวใจตีบขาดเลือด

Featured Image
ศบค. ยัน ชันสูตรปมตายหลังรับวัคซีนแอสตราเซนเนกา พบหัวใจตีบขาดเลือด – รอสรุปโยงฉีด

นาวาอากาศตรี นพ.อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย หัวหน้าแผนกนิติเวชศาสตร์ แถลงชี้แจงรายละเอียดการผ่าชันสูตรศพผู้เสียชีวิตหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ภาพรวมขณะนี้ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนไป 5.6 ล้านโดส ซึ่งการเกิดเหตุการณ์ไม่พึ่งประสงค์อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่เท่ากับผลข้างเคียงและการแพ้วัคซีนซึ่งพบในอัตราที่น้อยกว่า ถือว่าวัคซีนอยู่ในระยะปลอดภัย

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายใดเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน โดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปผลแล้วว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 12 ราย มีโรคสาเหตุการเสียชีวิตชัดเจน ไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีน พร้อมยืนยันว่า การพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึ่งประสงค์ไม่ได้เกี่ยวกับการให้เงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของ สปสช.

สำหรับการชันสูตรศพผู้ป่วยหญิงอายุ 46 ปี ที่เสียชีวิตย่างกะทันหัน หลังรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าผู้ป่วยมีภาวะอาการบวมน้ำที่ปอดทั้งสองข้างอย่างรุนแรงพบเลือดออกในถุงหุ้มหัวใจ ปริมาณ 180 ซีซี หัวใจห้องบนขวา มีการฉีกขาด ที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังมีกล้ามเนื้อหัวใจตาย ชนิดเก่าที่ห้องล่างซ้าย และมีเส้นเลือดหัวใจตีบ ทั้ง 3 เส้น ได้แก่ เส้นหน้าซ้าย เส้นขวาและเส้นหลังซ้าย จึงสรุปสาเหตุการตายของผู้ป่วยรายนี้อย่างชัดเจน ว่า มีเลือดออกที่ถุงหุ้มหัวใจ จากหัวใจห้องบนขวา ฉีกขาดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลัง การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนว่าการตายของผู้ป่วย รายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ จึงขอให้ติดตามการสรุปผลของคณะกรรมการในขั้นตอนต่อไป

 

ศบค. เผย กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ 3 เขต เฝ้าระวัง 78 คลัสเตอร์ ขณะ ศปก.ศบค.เน้นย้ำปลัด มท. ราชการจังหวัดควบคุมผังสถานประกอบการแคมป์คนงานอย่างมีประสิทธิภาพ

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า พื้นที่ กทม.พบทั้งหมด 78 คลัสเตอร์ และพบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ใน 3 เขต คือ เขตหลักสี่ แคมป์ก่อสร้างวรสิษฐ์ที่มี 211 ราย พบติดเชื้อ 59 ราย, เขตบางรัก ตลาดซอยละลายทรัพย์ 20 ราย ซึ่งเป็นผู้ค้าขายในตลาด 13 รายและมีการติดต่อไปในครอบครัวอีก 7 ราย และที่เขตภาษีเจริญ ที่โรงงานเย็บผ้า CPG Garment ที่มีการตรวจตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.64 จำนวน 330 คน พบติดเชื้อ 37 ราย นอกจากนี้ที่กรุงเทพมหานครยังได้รายงานเรื่องการตรวจตลาด 14 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ วางเป้าตรวจตลาดให้ได้ทั้งหมด 486 ตลาด และช่วงที่ผ่านมา 24 พฤษภาคม -10 มิถุนายน ตรวจไป 406 แห่ง และเมื่อวานนี้ ระดมตรวจ 42 แห่ง โดยตรวจรายใหม่ 27 แห่ง ตรวจซ้ำ 15 แห่ง ผ่านเกณฑ์รายใหม่ 20 แห่ง ตรวจซ้ำ 15 แห่ง รวมสะสม 324 แห่ง และพบว่าไม่ผ่าน 7 แห่ง

ทั้งนี้ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่างจังหวัดจะมีการสุ่มตรวจ สถานที่ขนส่ง, สถานที่ต่อบัตรแรงงาน, หน่วยราชการด้านหน้า, ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียนหรือสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ ก่อนที่จะเกิดการติดเชื้อในสถานประกอบการ โดยในวันนี้ที่ประชุมศบค. กรมควบคุมโรค ได้เสนอมาตรการ Bubble and Seal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งเมื่อมีการประกาศขอความร่วมมือ สำนักงานเขตรายงานว่า จะมีความเข้าใจไม่ตรงกันในแคมป์ก่อสร้างแต่ละพื้นที่ จึงทำให้กรมควบคุมโรคมีการมีการออกมาตรการที่เป็นรายละเอียด และข้อปฏิบัติ ซึ่งได้เสนอในที่ประชุมมีมติของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และคณะกรรมการโรคติดต่อเห็นชอบในหลักการแล้ว โดยนิยาม เป็นการจัดการบริหารควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ แบบมีส่วนร่วม และเพื่อสามารถให้ทำกิจกรรม หรือทำงานได้ในพื้นที่จำกัดของกลุ่ม สามารถเดินทางเคลื่อนย้ายได้ระหว่างที่พัก และสถานที่ทำงาน ภายใต้การควบคุมกำกับ มีการบริหารจัดการ ในการแยกบุคคลการตรวจ ห้องปฏิบัติการ การบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคและมีแผนการจำหน่ายออก ตามแนวทางควบคุมโรคกำหนด ในส่วนของปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้มีการจัดการดังกล่าว 28 วัน โดยจะมีการสุ่มตรวจ เพื่อให้แรงงานสามารถทำงานได้ และทางเขตพื้นที่ จะได้ไม่ต้องสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง หรือโรงงานสถานประกอบการ เพราะบางครั้งการปิดสถานที่ต่างๆไม่ได้ตอบโจทย์ และอาจทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายไปสมัครงานยังที่แห่งอื่น

ขณะที่ ความเป็นอยู่ของผู้ที่อยู่ใน Bubble and seal มีมาตรการรองรับเรื่องอุปโภคบริโภค ให้สามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบาก รวมถึงแผนการเปิดหลัง 28 วัน ซึ่งก็มีรายละเอียดที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ศบค. มีการหารือและเสนอในจุดที่ละเอียดอ่อน ไปปรับปรุง และเร็วๆนี้จะมีการนำไปประกาศใช้เพื่อให้ทุกจังหวัด นำไปเป็นมาตรฐานเดียวกัน

นอกจากนี้ ในที่ประชุม ศปก.ศบค. ฝากเน้นย้ำไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ราชการจังหวัด ซึ่งมีบทบาทสำคัญกับการควบคุมโรค ผังสถานประกอบการแคมป์คนงานที่อยู่ในแต่ละจังหวัด และต้องการให้การปฏิบัติในแต่ละจังหวัด เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้การควบคุมโรค เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ แพทย์หญิงอภิสมัย เน้นย้ำไปถึงประชาชน มีมาตรการเน้นย้ำออกมา หากสถานประกอบการหรือชุมชนยังไม่สามารถปฏิบัติหรือเพิกเฉย ประชาชนต้องเป็นผู้ตรวจสอบ และช่วยให้การแพร่ระบาดนั้นสามารถควบคุมได้

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube