นายกฯสั่งการทุกกระทรวงใช้จ่าย พ.ร.ก.เงินกู้ โปร่งใส
นายกรัฐมนตรี สั่งการทุกกระทรวงใช้จ่าย พ.ร.ก.เงินกู้ สุจริตโปร่งใส ประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกกระทรวงและหน่วยงาน ใช้จ่าย พ.ร.ก.เงินกู้ฯ อย่างสุจริตโปร่งใส และประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอบคุณหน่วยงานและทุกกระทรวงรวมไปถึงภาคเอกชนที่ร่วมมือกันให้สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2021 ทุกนัดฟรี ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใดจึงนับเป็นเรื่องยินดี ที่ทำให้ประชาชนมีความสุข ทั้งนี้ยังห่วงว่าจะเกิดการพนันบอลขึ้นในช่วงนี้จึงได้กำชับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือดีอีเอสและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้มงวดการเล่นพนันโดยเฉพาะทางออนไลน์ให้มากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามได้ขอบคุณทุกหน่วยงานและกระทรวงที่ตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวกรอง เพื่อป้องกันการสับสนของประชาชนและชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจนและทันต่อสถานการณ์ด้วย
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังพูดถึงการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน ทั้งกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือ กยศ, การเช่าซื้อ, หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลรวมไปถึงหนี้นอกระบบ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งระยะสั้นที่อาจจะมีลดการภาระดอกเบี้ย ดูแลการปรับค่าธรรมเนียมเหมาะสม ไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สินเพื่อลดการดำเนินคดี เพิ่มเข้าถึงแหล่งทุนรายย่อยด้วย ขณะที่ในระยะยาวทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อ หามาตรการอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนลดหนี้ลงไปในอนาคตด้วย
โฆษกยัน นายกฯจะอยู่จนครบวาระ มุ่งมั่นเดินหน้านโยบายอย่างเต็มกำลัง เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกันประชาชน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะอยู่จนครบวาระ และทำหน้าที่ในนามของรัฐบาล และร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ ในการมุ่งมั่นเดินหน้านโยบายสำคัญต่างๆอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเยียวยาและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19
ซึ่งการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ ที่จังหวัดขอนแก่นนั้น พรรคพลังประชารัฐได้ทำการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และนายกรัฐมนตรีได้กำชับการปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชาชนจะปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามที่หลายฝ่ายเป็นกังวล
รัฐบาลยึดหลักเกณฑ์กระจายวัคซีน 4 ประเด็น ย้ำ เป้าหมายเดิมต้องฉีดให้ประชาชน 50 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการกระจายวัคซีนโควิด-19 ว่า หลักเกณฑ์มี 4 ประเด็น คือ เมื่อมีวัคซีนมาถึงทางกระทรวงสาธารณสุขจะจัดส่งให้แต่ละจังหวัดทันทีภายหลังตรวจสอบคุณภาพแล้วเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด, ส่วนการจัดส่งวัคซีนให้แต่ละจังหวัดจะเป็นจำนวนเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนประชากร จำนวนผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ ผู้ติดเชื้อ กลุ่มเฉพาะ อาชีพเสี่ยงและพื้นที่เศรษฐกิจ โดยหากมีจำนวนวัคซีนไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนในระยะเวลานั้นๆให้มีการปรับแผนเป็นรายสัปดาห์ โดยให้แต่ละจังหวัดพิจารณาจัดสรรให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยงจากการที่ลงทะเบียนก่อนหน้านี้ ทั้งนี้หากจำเป็นต้องชะลอการฉีดวัคซีนให้ยึดลำดับเดิมที่ประชาชนลงทะเบียนไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องให้ลงทะเบียนใหม่และทันทีที่วัคซีนมาถึงให้ทำการนัดหมายมาฉีดโดยทันที
ทั้งนี้นายอนุชา ย้ำว่า เป้าหมายเดิมของการฉีดวัคซีน คือ ต้องฉีดให้กับประชาชน 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564 และรัฐบาลจะพยายามจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมให้ได้ถึง 150 ล้านโดส
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news