โฆษกยันปชป.พร้อมหนุนพ.ร.บ.ประชามติ
โฆษก ยัน ปชป.พร้อมหนุน พ.ร.บ.ประชามติ ขณะ แก้ รธน.รับหลักการ 8 ญัตติการแก้ไขของ 3 พรรคร่วม
นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประชามติในวาระ 2 และ 3 และการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ส่วนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ในวันนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะประชุมร่วมกันในช่วงบ่าย เพื่อหารือแนวทางร่วมกัน และยืนยัน พร้อมสนับสนุนรับหลักการ 8 ญัตติการแก้ไขของ 3 พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงการแก้ไขในมาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว.
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันจะไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่นอกเหนือหลักการของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายราเมศ มองว่า ไม่สามารถบังคับ หรือสั่งการให้ใครลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใดบ้าง แต่เห็นว่า สมาชิกรัฐสภา ยังไม่ควรปฏิเสธคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกร่าง จนกว่าจะได้ฟังการอภิปรายเหตุและผลการแก้ไขรัฐธรรมนูญของแต่ละฉบับแต่ละพรรคการเมืองว่า มีเหตุผลในการแก้ไขอย่างไร ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ก็จะเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของแต่ละพรรคการเมืองในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะทำให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น
“ราเมศ” ร่ายยาวประธานรัฐสภา ยึดรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับ เคร่งครัด สุจริตเป็นกลาง ตรงไปตรงมา อัด “ชูศักดิ์-เลขาก้าวไกล” อย่าโวยวาย คิดทำตามอำเภอใจ
นายราเมศ กล่าวถึงกรณีที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.พรรคเพื่อไทย และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ออกมากล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เรื่องการไม่บรรจุญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ โดยยืนยันว่า การทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ยึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เป็นกลาง ตรงไปตรงมา ให้เกียรติและเคารพทุกคน สร้างบรรทัดฐานของรัฐสภา ยึดมั่นหลักนิติธรรม การจะมากล่าวหาว่า ขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญของประชาชน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งที่นายชูศักดิ์ เป็นถึงครูบาอาจารย์
ต้องย้อนกลับไปดูหลักการรัฐธรรมนูญและข้อบังคับให้ชัด รวมไปถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ประกอบด้วย ไม่ใช่คิดจะทำตามอำเภอใจตนโดยไม่มีหลัก พอไม่ได้ดั่งใจก็ออกมาโวยวายไม่สมราคาของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเลย ข้อเท็จจริงยุติว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่) (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) เป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมให้มีหมวด 15/1 เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ย่อมมีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อันเป็นการแก้ไขหลักการสำคัญที่ผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญดั้งเดิม ต้องการปกป้องคุ้มครองไว้ หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงประชามติเสียก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วย จึงดำเนินการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงมิใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคสี่
ดังนั้น ประธานรัฐสภาจะบรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเข้าระเบียบวาระการประชุมตามข้อ 119 ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ได้ จึงจะต้องเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่าต้องเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตราไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เมื่อร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ประธานรัฐสภา จึงไม่สามารถบรรจุร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับดังกล่าว เข้าระเบียบวาระการประชุมของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาได้
สำหรับเรื่องดังกล่าว มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ประกอบการพิจารณาด้วยเหตุและผล โดยยึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับประกอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่ก็ชัดเจนว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ยังไม่ตกไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 105 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จะตกไป แค่ 2 กรณี คือ
- รัฐสภาลงมติไม่รับหลักการ
- รัฐสภาลงมติไม่เห็นชอบในวาระที่สาม
เมื่อร่างยังไม่ตกไป หากต่อไปมีข้อกฎหมายในเรื่องว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news