Home
|
ข่าว

“วิษณุ”ปัดตอบ”ชวน”ตีตกญัตติแก้ม.256

Featured Image
“วิษณุ” ปัดแสดงความเห็น “ชวน” ตีตกญัตติแก้ม. 256 ชี้เป็นอำนาจสภาหารือกัน ยอมรับ ม.144 และ 185 มีปัญหาไม่ตรงเจตนารมณ์ โยน กมธ.หาทางออก

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ฉบับ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองว่า แล้วยังไง จะต้องแก้อย่างไรประชาชนถึงจะได้ประโยชน์ ว่า จะต้องไปถามผู้เสนอร่างมากกว่า ส่วนการแก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 จะทำให้การตรวจสอบ การทุจริตลดประสิทธิภาพลงหรือไม่ นายวิษณุ ยอมรับว่า เป็นประเด็นที่มีปัญหาทั้ง 2 มาตรา ซึ่งหากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการในวาระแรก ยังมีโอกาสในการแปรญัตติในชั้นคณะกรรมาธิการ ไม่ว่าจะแก้ให้เข้มข้น จางลง หรือชัดเจน เพราะขณะนี้อาจจะยังไม่ชัดเจนว่าอะไรสามารถทำได้และทำไม่ได้ จึงทำให้เกิดความสับสนในการตีความแต่ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะมีการแก้ไขไปในทิศทางใด แต่ก็ต้องยอมรับว่า การแก้ไข 2 มาตรานี้ จะทำให้การตรวจสอบอ่อนแอลง ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของร่างกฎหมาย ล่าสุดท้ายจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่สภา เพราะสภาเองก็อยากจะร่างขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับด้วยซ้ำไป

ทั้งนี้ นายวิษณุ ไม่ทราบว่าการเสนอใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้กลับไปเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 หรือไม่ และไม่ทราบว่าจะมีแนวโน้มที่สภาจะเห็นชอบในการตัดอำนาจส.ว.หรือไม่

ส่วนที่พรรคก้าวไกลออกมาขู่ว่าหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านจะเสนอญัตติด่วนขอให้คณะรัฐมนตรีทำประชามติ เพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชน นั้น นายวิษณุ ระบุว่า แม้จะผ่านความเห็นชอบ แต่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่ถือว่าเป็นกฎหมาย เพราะตามขั้นตอนแล้ว เมื่อสภาเห็นชอบต้องส่งร่างดังกล่าวเพื่อให้คณะรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อรอการประกาศใช้ ดังนั้น จะมาใช้ขั้นตอน?ในตอนยังไม่เป็นกฎหมายไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกล สามารถเตรียมการไว้ล่วงหน้าได้

ส่วนที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ไม่ให้มีการพิจารณาญัตติแก้ไขมาตรา 256 นั้น ส่วนตัวตอบไม่ถูกเพราะเป็นเรื่องของสภา แต่ถ้ายืนยันแล้วว่า ไม่ได้ตีตกการแก้ไขมาตราดังกล่าว เข้าใจว่าอาจจะต้องมีการหารือกันในสภา

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube