Home
|
ข่าว

นายกฯสั่งดูเตียงผู้ป่วยเพิ่มเร่งด่วน-เตือนม็อบระวังโควิด

Featured Image
นายก  มอบอนุชา แถลง สั่งพิจารณาเตียงรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมเร่งด่วน เตือนม็อบระวังโควิดขู่อย่าทำผิด ขณะ ครม. รับทราบภูเก็ตSandbox ลุยวัคซีน150ล้านโดส

ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนแทน

โดยนายอนุชา กล่าวถึงกรณีการชุมนุม วันที่ 24 มิ.ย. นี้ ว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ ที่ยังมีการแพร่ระบาดในปัจจุบัน จึงหวังว่าประชาชนจะพิจารณา ว่า การออกมาร่วมชุมนุมไม่ว่าในที่แห่งใดในประเทศ ก็มีความสุ่มเสี่ยง เพราะสถานการณ์การติดเชื้อ ยังมีการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ต่างๆ เกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนพิจารณา หลีกเลี่ยงในการรวมตัว หรือชุมนุมในลักษณะดังกล่าว

ทั้งนี้ หากมีการกระทำความผิดในการออกมาชุมนุมในลักษณะต่างๆ ก็ต้องเป็นเรื่องกฎหมายที่ต้องพิจารณาและดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ต่อไป

 

นายกฯสั่งการพิจารณาเตียงรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมเร่งด่วน ส่วนการเปิดเรียนที่พบการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ต้องประเมินสถานการณ์หรือปิดชั่วคราว

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจง กรณีที่จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นไม่สอดคล้องกับจำนวนเตียง ว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเพิ่มเติมพิจารณาเตรียมเพื่อรองรับผู้ป่วย หากเป็นไปได้ อยากให้แต่ละจังหวัดได้พิจารณาเพิ่มเติม ปรับจำนวนเตียง เช่น โรงพยาบาลสนาม ให้สามารถรองรับผู้ป่วยในระดับที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับโรงพยาบาลสนามบุษราคัม

โดยรัฐบาลได้เร่งรัดช่วยเหลือ หากมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยบุคลากรต่างๆทางการแพทย์ เช่นเครื่องช่วยหายใจ เครื่องเอกซเรย์ ให้ดำเนินการแจ้งความประสงค์มา โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะพิจารณาให้เป็นการเร่งด่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ขณะที่มาตรการรับการเปิดเทอมที่มีการพบการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่จังหวัด หลังจากที่มีการเปิดไม่ว่าจะเป็นจุดใดก็แล้วแต่ โดยเฉพาะโรงเรียน หากพบว่ามีปัญหา ก็จะต้องดำเนินการ ให้สอดคล้องหรือปิดชั่วคราว เพื่อที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

ส่วนการใช้งบประมาณ ด้านสาธารณสุข สามารถให้ประชาชนตรวจสอบได้อย่างไร หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี แจ้งให้ทราบว่า หากมีการพบการข้อสงสัย โดยมีหลักฐานสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบได้ทุกกรณี ไม่มีการละเว้นใครที่รับผิดชอบ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังชี้แจง ถึงการจัด ซื้อกล้อง CCTV ในโรงพยาบาล สนามแพงเกินจริง ว่า นายกรัฐมนตรี ได้ให้ทุกหน่วยงานดูแลเรื่องการทุจริตเป็นสำคัญ หากพบมีการร้องทุกข์มา ก็จะต้องดำเนินการให้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง อย่างเข้มข้น

 

นายกฯสั่ง สธ.เตรียมเตียงรับผู้ป่วยสีแดง สีเหลือง เน้นย้ำให้จัดหาวัคซีนให้เพียงพอ และทันต่อสถานการณ์

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการเข้านากยรัฐมนตรีว่า นายกฯสั่งการให้ดูแลเรื่องเตียงรักษาให้เพียงพอ เพราะขณะนี้มีคนไข้รอเตียงในระดับสีแดง และสีเหลืองอยู่มาพอสมควร พร้อมเน้นย้ำให้จัดหาวัคซีน ให้เพียงพอ และทันต่อสถานการณ์ และเป็นไปตามเป้าหมาย ที่นายกรัฐมนตรี กำหนดไว้

นอกจากนี้ ทางกระทรวงได้รายงานว่า มีความเป็นไปได้ตามเป้าหมายในการฉีดวัคซีนที่ จ.ภูเก็ต ร้อยละ 70 เพื่อเตรียมพร้อมเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในส่วนของสาธารณสุข ก็จะทำงานอย่างเต็มที่ โดยมีมาตรการตามยุทธศาสตร์ ที่จะเปิดประเทศ ใน 120 วัน โดยกระทรวงฯ ได้จัดทำมาตรการเพื่อประเมินความพร้อม ของแต่ละจังหวัด หากยังจังหวัดไหนยังไม่พร้อมด้านใด ก็จะต้องยกระดับมาตรการนั้นๆ ขึ้นมา
เช่น เรื่องการควบคุมโรค การรักษา หรือ การฉีดวัคซีน ซึ่งแต่ละจังหวัด ต้องกำหนดเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน

นอกจากนี้ การควบคุมและติดตามโรค ก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการรักษาผู้ที่ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ ก็จะนำไปสู่การเปิดประเทศได้ โดยจะมีการระบุเป็นจังหวัด ทั้งนี้ คาดว่าแต่ละจังหวัดจะทำเสร็จไม่พร้อมกัน แต่ในส่วนของจังหวัดที่พร้อม ก็พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ก่อน ตามแนวทาง ซีล รูท หรือการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด เกี่ยวกับการควบคุมโรค

โดยที่เล็งๆ ไว้ มีที่ จ.กระบี่ จ.พังงา และ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หรือ จังหวัดอื่นๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่เศรษฐกิจ ก็จะเร่งรัดให้แต่ละจังหวัดเป้าหมายมีความพร้อมให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกัน คลัสเตอร์ใหญ่ ที่ระบาด ที่ จังหวัดยะลา ก็มีการควบคุมติดตาม โดยขณะนี้รู้ตัวบุคคลที่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ แล้ว โดยได้เข้าสู่กระบวนการกักตัว

พร้อมย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนนโยบายการเปิดประเทศ และทำตามนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกกดดันใดๆ เพราะข้าราชการต้องทำงานตามนโยบาย ส่วนตัวทำได้ทุกอย่าง และพยายามชี้แนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน โดยเฉพาะนโยบายเปิดประเทศภายใน 120 วันมีเวลาให้ทำงานพอสมควร

 

นายกฯรับฟังข้อกังวลต่างๆ ปมเปิดประเทศ 120 วัน ย้ำนโยบายต้องรักษาสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และการแพร่ระบาด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แสดงความห่วงใยต่อนโยบายเปิดประเทศ ใน 120 วัน อาจเกิดการระบาดใหญ่ ระลอกที่ 4 และนำเชื้อกลายพันธุ์ได้

ว่า นายกรัฐมนตรี รับฟังในข้อกังวลต่างๆ อีกทั้งตามที่นายกฯ เคยให้นโยบายไว้ว่าสิ่งต่างๆ ต้องรักษาสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สุขภาพและดูแลการแพร่ระบาด จึงเป็นเหตุผลถึงเรียกแซนด์บ็อกซ์ นำร่องที่ จ.ภูเก็ต เพื่อให้มีการควบคุมภายในแซนด์บ็อกซ์ และสามารถดำเนินการแก้ไขปรับเปลี่ยนได้ เพื่อเป็นข้อระวังและการเตรียมพร้อมเปิดประเทศและนำร่องในจังหวัดอื่นๆ ด้วย

 

ศบค. หารือ เปิดพื้นที่นำร่อง ภูเก็ต-สมุย ย้ำ ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ขณะหลักเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวจะมีการดำเนินการตามมาตรฐาน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ และจะทบทวนการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หรือ ภูเก็ต Sandbox 1 ก.ค. หรือไม่ และมีแนวทางการคุมเข้มอย่างไรนั้น ว่า จากการประชุม ศบค. ที่ประชุมได้พูดถึงประเด็นการแพร่ระบาดโควิด-19 และเปิดประเทศใน 120 วัน หรือประมาณเดือน ต.ค.นี้

ซึ่งได้มีการพูดคุยหลักการพื้นที่นำร่อง ภูเก็ตและสมุย แผนการตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ การคำนึงถึงสถานการณ์ในพื้นที่ และความพร้อมด้านสาธารณสุข และย้ำว่า จะดำเนินการอย่างเคร่งครัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ แนวทางประเด็นการเปิดพื้นที่นำร่องในจังหวัดอื่นๆ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเสนอ กับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อย่างใกล้ชิด เพื่อทราบความต้องการของคนพื้นที่ก่อนส่งรายละเอียดให้กับ ศบค. เป็นผู้พิจารณา แต่ย้ำว่า ไม่ได้เป็นหน่วยงานกำหนดให้ส่วนไหนเปิด และใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ คงจะต้องดูทุกภาคส่วนในพื้นที่ให้เห็นพ้องต้องการเป็นหลัก

นายอนุชา ยังระบุถึงหลักเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยว จะมีการดำเนินการตามาตรฐานไม่ว่าจะเป็นการรับวัคซีนครบถ้วนตามที่มีการรับรองขององค์การอนามัยโลก โดยแต่ละจังหวัด จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อพิจารณาในรายละเอียดสถานการณ์ในจังหวัดนั้นๆ

 

“บิ๊กตู่”ลั่น ปชช.ร้องทุกข์กล่าวโทษมาได้ พร้อมตรวจสอบเข้ม ปมเสาไฟฟ้าปฎิมากรรมแพงเกินจริงผุดหลายพื้นที่

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีการจัดซื้อเสาไฟฟ้าปฎิมากรรมพลังงานเเสงอาทิตย์ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าแพงเกินจริง ซึ่งการจัดซื้อมีหลายท้องถิ่นทั่วประเทศ แต่มีไม่กี่บริษัทได้รับงาน ว่า นายกรัฐมนตรี กำชับว่าเรื่องการตรวจสอบต่างๆ ประชาชนสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษมาได้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มข้น

และเพื่อให้เรื่องการกระจายอำนาจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะยังมีการกระจายอำนาจดีๆ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินโครงการเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนโครงการไหนเป็นข้อกังขาและทำให้ประชาชนไม่สบายใจ ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษเข้ามาเดำเนินการตามขั้นตอนอย่างชัดเจน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube