กลุ่มราษฎร ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อรัฐสภา เข้าหารือถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายในอาคารรัฐสภา ขณะ ประชาชนคนไทย เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบ
กลุ่มราษฎร ยื่นจดหมายเปิดผนึกของราษฎรต่อรัฐสภา เนื่องในวันครบรอบ 89 ปี การอภิวัฒน์สยาม”รัฐธรรมนูญเผด็จการจงพินาศ รัฐธรรมนูญประชาราษฎร์จงเจริญ” โดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว นายสมคิด เชื้อคง ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นตัวแทนวิปฝ่ายค้าน และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตัวแทนจากวิปรัฐบาล
พร้อมแสดงจุดยืนหลัก 3 ข้อ คือ
1.รัฐธรรมนูญต้องผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด
2.รัฐธรรมนูญจะต้องไม่เป็นเครื่องสืบทอดอำนาจเผด็จการของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. บทบัญญัติใดที่เอื้อให้เกิดการสืบทอดอำนาจอย่างไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น อำนาจวุฒิสภาและองค์กรอิสระต่างๆ จะต้องถูกยกเลิก
และ 3.การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่นั้น จะต้องร่างหรือแก้ไขได้ทุกหมวด ทุกมาตรา ไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้ กลุ่มราษฎรขอส่งตัวแทน 5 คน เข้ามายื่นข้อเรียกร้องและหารือกับตัวแทนฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมถึงการแสดงจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ภายในอาคารรัฐสภา
สำหรับการจัดกิจกรรมวันนี้ มีการตั้งเวทีปราศรัยสลับกับวงดนตรี พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนไล่นายกรัฐมนตรีโดยจะไม่มีการปักหลักค้างคืน เพราะได้ขอจัดกิจกรรมไปจนถึงเวลา 16:00 น. และจะไปจัดกิจกรรมที่สกายวอล์กต่อ
ตัวแทน “ราษฎร” หารือถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายในอาคารรัฐสภา “สิระ” โดนมวลชนโห่ไล่ขว้างปาสิ่งของใส่
ภายหลังกลุ่มราษฎร ยื่นหนังสือเปิดผนึก เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ กับตัวแทนรัฐบาลและฝ่ายค้านแล้ว แกนนำคนสำคัญ อาทิ นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ,นายพริษ ชิวารักษ์ , นางสาวปนัสยา จิรวัฒนกุล , นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ได้เจรจาขอเข้าไปพูดคุยหารือถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายในอาคารรัฐสภา
ทั้งนี้ ในระหว่างที่แกนนำผู้ชุมนุม ยื่นหนังสือข้อเรียกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่านตัวแทนฝ่ายค้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้มาพูดคุยกับมวลชนด้านข้างเวที ก่อนจะช่วยอุดหนุนแม่ค้าขายน้ำหวาน ด้วยการเหมาซื้อน้ำหวาน และบุหรี่ เพื่อแจกจ่ายให้กับมวลชน ทำให้มวลชนบางส่วนปรบมือ ส่งเสียงชื่นชม ในขณะที่บางส่วน ตะโกนแซวนายสิระ ว่า “วันนี้ลุงพลไม่มานะ อย่ามุงกันเยอะเดี๋ยว ส.ส. อิ่มแสง”
และเมื่อนายสิระ ขึ้นเป็นตัวแทนรับหนังสือบนเวที มวลชนได้ตะโกนโห่ร้องส่งเสียงไล่ พร้อมกับชูมือสัญลักษณ์ 3 และในระหว่างที่ นายสิระ จะเดินกลับเข้าในอาคารรัฐสภา มีมวลชนพยายามจะโห่ร้องขับไล่ และเดินตาม วิ่งตาม ก่อนจะขว้างปาสิ่งของใส่
ม็อบประชาชนคนไทย เคลื่อนขบวนถึงแยกยมราช “นิติธร” เข้าเจรจาตำรวจขวางขบวน ให้เปิดทางเดินทางไปยังทำเนียบต่อ
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
โดยการชุมนุม เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. และเริ่มเคลื่อนขบวนเวลา 14.39 น. บริเวณแยกถนนอุรุพงษ์ ช่วงขาขึ้นทางด่วน จากนั้น จะเคลื่อนตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยวางแผนว่าจะปักหลักค้างคืน ที่ศาลกรมหลวงชุมพร ใกล้กับสะพานชมัยมรุเชฐ
โดยก่อน เริ่มเดินขบวน พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับ สน.พญาไท ได้เข้ามาพูดคุยเจรจากับนายนิติธร ยุติการชุมนุม ผิดมาตรการ สถานการณ์ฉุกเฉิน และมาตรการควบคุมโรค ที่ นายนิติธร ได้แจ้งว่า ได้ยื่นขออนุญาตไปแล้วกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และยืนยันว่ามีช่องทางทางกฎหมายที่ทำกิจกรรมได้อยู่ จึงถือว่าชอบด้วยกฎหมาย ยืนยันเจตนารมณ์ชุมนุมค้างคืน และมองว่า ทางออก ขณะนี้คือการพูดคุยกัน
และเมื่อเวลา 14:50 น. กลุ่มประชาชนคนไทยได้เดินทางมาถึงแยกยมราช พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับ การ สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขวางกระบวนการเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลต่อ ได้โดยมีการเจรจาถึงข้อกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าวอาจมีความผิดมาตรการ สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ นายนิติธร ได้มีการเจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงได้เปิดทางให้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลต่อได้
ตร. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิด แกนนำราษฎร ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศ กทม. – ลั่นชุมนุมหน้าทำเนียบทำไม่ได้
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมชนของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ในวันนี้กลุ่มราษฎร ได้รวมตัวทำกิจกรรมตั้งเวลา 05.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเคลื่อนขบวนเดินเท้ามาที่แยกเกียกกาย และในช่วงเย็นจะไปทำกิจกรรมที่สกายวอร์กแยกปทุมวัน
ซึ่งการทำกิจกรรมในทุกจุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนแล้ว ว่าเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยังฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง ห้ามรวมตัวทำกิจกรรม เกิน 50 คน เนื่องจาก กทม. เป็นพื้นที่ควบคุมเข้มงวดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลัง ตำรวจหน่วยงานควบคุมฝูงชน และตำรวจจราจร มาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ส่วนการทำกิจกรรมในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ฐานฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศคำสั่ง ผู้ว่าฯ กทม. ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
และจะมีการติดตามกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ ด้วย หากมีการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย ก็จะดำเนินคดี เช่นเดียวกับผู้ที่ยุยง ปลุกปั่น สนับสนุนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ก็จะถูกดำเนินคดีในมาตรฐานเดียวกัน จึงเตือนให้ผู้ชุมนุมเรียกร้องภายใต้กติกา และเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่กำหนด หากกิจกรรมใดที่ทำแล้ว ไปกระทบสิทธิ์ของประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งไม่ได้ถึงเพียงการสลายการชุมนุม แต่อาจหมายถึงการดำเนินคดีในภายหลัง
พร้อมกันนี้ รองโฆษก ตร. เตือน แกนนำผู้ชุมนุมที่อยู่ในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว ว่า ขอให้กลับไปศึกษาคำสั่งศาลในอนุญาตประกันตัวว่าสิ่งที่ทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ อะไรที่ทำแล้วจะถูกถอนการประกันตัว ทุกอย่างเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายอยู่แล้ว จะทำอะไรขอให้พิจารณาอย่างถ่องแท้ก่อน พร้อมทั้งขอความร่วมมือการทำกิจกรรมให้ดำเนินตามขั้นตอนและข้อตกลงที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไว้
ส่วนการที่กลุ่มไทยไม่ทน และกลุ่มประชาชนไทย นัดทำกิจกรรมไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเย็นวันนี้ รองโฆษก ตร. ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการป้องกันไว้แล้ว แต่อยากให้ทุกอย่างมีการเจรจาระหว่างแกนนำและตัวแทนเจ้าหน้าที่ ในการระบุกิจกรรมที่จะทำ ช่วงเวลา ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการข่าวที่น่าเป็นห่วง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news