พระสีวลี เถระเป็นพระอรหันต์ที่ได้รับการยกย่องเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางผู้มีลาภมาก จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน เงินทองจากการค้าขาย
พระสีวลีเถระ หรือ พระสีวลี เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล พระสีวลีเถระเป็นเจ้าชายในโกลิยวงศ์ ออกบวชในสำนักพระสารีบุตร บรรลุพระอรหันต์ในขณะที่ปลงเกศานั่นเอง และหลังจากผนวช ท่านเป็นผู้มีลาภสักการะมากด้วยกุศลกรรมที่ทำมาแต่อดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก
พระสีวลีเถระ เป็นพระโอรสของพระนางสุปปวาสา ผู้เป็นพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงโกลิยะ อยู่ในพระครรภ์ถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เมื่อทรงพระครรภ์ทำให้พระมารดาสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะมาก เมื่อประสูติก็ประสูติง่ายดาย พุทธานุภาพที่ทรงพระราชทานพรว่า “ขอพระนางสุปปวาสาจงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชบุตรผู้ไม่มีโรคเถิด”
เมื่อประสูติและพระประยูรญาติขนานถวายพระนามว่า สีวลีกุมาร ในวันที่นิมนต์พระพุทธเจ้ามาเสวยภัตตาหารตลอด 7 วัน สีวลีกุมารก็ได้ถือธมกรกรองน้ำถวายพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ตลอด 7 วัน
เมื่อเจริญวัย ท่านได้ออกผนวชในสำนักพระสารีบุตร ได้บรรลุอรหันตผลในเวลาปลงเกศาเสร็จ จากนั้นมาท่านสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะไม่ขาดด้วยปัจจัย 4 ทั้งปวง ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก และในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไม่ระบุว่าท่านดับขันธปรินิพพานที่ใด แต่ท่านคงดำรงขันธ์อยู่พอสมควรแก่กาลจึงปรินิพพาน
พระสีวลีเถระในความเชื่อของคนไทย
เนื่องจากพระสีวลีเถระเป็นพระอรหันต์ที่ได้รับการยกย่องเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางผู้มีลาภมาก คนไทยเชื่อว่าผู้ใดได้บูชาพระสีวลีเถระแล้ว จะได้รับโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งคนไทยก็เชื่ออีกว่าเคยมีผู้หนึ่งเคยได้รับมาแล้วในสมัยพุทธกาลก็คือ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเกิดในตระกูลพ่อค้ามีนามว่า สุภาวดี นางได้เลื่อมใสศรัทธาพระพุทธศาสนา และนับถือพระสีวลีเถระเป็นอย่างยิ่ง เมื่อแม่นางได้ฟังธรรมจนลึกซึ้ง พระสีวลีก็ให้ศีลและให้พรว่า “จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน เงินทองจากการค้าขาย เงินทองไหลมาเทมาสมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด“ หลังจากที่นางสุภาวดีได้รับพรจากพระสีวลีเถระแล้ว ไม่ว่านางและผู้เป็นบิดามารดาจะไปค้าขายที่ใด ก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีแต่กำไรหลั่งไหลเข้ามาทุกครั้งไป
ในสมัยพุทธกาล คราใดที่พระพุทธเจ้าจะนำคณะสงฆ์ออกเผยแพร่ธรรมในถิ่นกันดาร พระองค์จะโปรดให้พระสิวลีร่วมไปกับคณะของพระองค์ด้วย และตลอดเส้นทางที่พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยคณะสงฆ์ผ่านไปจะพบว่ามีผู้ทำบุญถวายปัจจัยอย่างไม่ขาด ทั้งภัตตาหาร และที่พักอาศัย แม้จะออกเผยแพร่ธรรมในเป็นดินแดนห่างไกล ยากไร้ แห้งแล้ง กันดารเพียงใดก็ตาม ด้วยบุญบารมีของพระสีวลีนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวท่านเอง แต่ยังได้เผื่อแผ่ไปยังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งสงฆ์สาวกท่านอื่นๆ ให้ได้รับปัจจัยอย่างทั่วถึง ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านใน ตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง “ผู้มีลาภมาก”
จึงเป็นที่มาของความศรัทธาที่ว่า ท่านทรงเป็นพระภิกษุสงฆ์แห่งโชคลาภ และความสมบูรณ์มั่งคั่งที่ไม่เคยขาด และความศรัทธานี้ก็ยังคงปรากฏอย่างเด่นชัด สืบทอดมาจนปัจจุบันนี้ หากผู้ใดบูชาพระสิวลีอย่างถูกต้อง ก็จะพบความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว และมีกินมีใช้ไม่ขาด
เคล็ดลับวิธีการบูชาพระสิวลี
ต้องเริ่มจากการหมั่นบริจาคทานในที่ๆ ยากลำบาก คือ หัวใจของการบูชาพระสิวลีให้ได้ผลดี เพราะในอดีตทุก ๆ ชาติที่ผ่านมา พระสิวลีท่านจะทำบุญด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม ทำบุญด้วยศรัทธาเต็มร้อย แม้ว่าของที่ทำบุญจะราคาไม่แพง แต่ก็เป็นการถวายที่ทรงคุณค่า เพราะเป็นการให้ในสิ่งที่ผู้รับต้องการ ดุจการได้น้ำในทะเลทราย ดุจการได้อาหารในยามหิว ดังนั้น ผู้ที่ต้องการที่จะให้พระสิวลีท่านช่วยควรจะบริจาคทาน ให้สิ่งของในผู้ยากไร้มากๆ ท่านจะได้อานิสงส์บุญมาก และต้องอุทิศบุญนั้นส่งไปให้พระสิวลีทุกครั้ง เป็นการเปิดบุญและเชื่อมบุญกับท่าน เพื่อให้ท่านรู้จักเรา และรับรู้ความต้องการของเราได้ การบูชาพระสีวลีนั้น ให้บูชาด้วยเครื่องบูชา ดังนี้
- น้ำผึ้ง ผลไม้สด ดอกไม้ขาว หรือ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือดอกบัวทุกชนิด อย่างละ 7 ดอก
- น้ำสะอาด 1 แก้ว โดยลอยดอกมะลิไว้บนน้ำ
เคล็ดโบราณนั้นกล่าวไว้ว่า การถวายผลไม้สด และน้ำผึ้งควรถวายในวันพฤหัสบดี ส่วนวันเสาร์ควรถวายอาหารจากทะเล หรืออาหารที่ปรุงจากต้นบัว แล้วอธิษฐานจิตขอให้โชคสำเร็จ สมหวัง และเมื่อท่านได้โชคได้ลาภสมดังหวังแล้ว จะต้องทำบุญเลี้ยง หรือถวายสังฆทานเพื่อเป็นการต่อโชคลาภให้มาไม่ขาดสาย
- เมื่อเตรียมของบูชาแล้ว ก็สำรวมกายและใจให้สงบ จากนั้นจึงถวายของบูชาและสวดคาถาบูชาพระสีวลี จากนั้นจึงอธิษฐานขอพรตามปรารถนา การถวายของบูชา หรือ อามิสบูชา นั้น แม้จะเป็นเครื่องระลึกที่ดีให้เราได้บูชาคุณงามความดีของท่าน แต่พระสีวลีท่านเป็นพระอรหันต์ที่ปราศจากกิเลสแล้ว ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งของเครื่องบูชาแต่อย่างใด ดังนั้นวิธีบูชาที่แท้จริงอีกอย่างหนึ่งที่เราควรเน้นนั่นก็คือการ “ปฏิบัติบูชา” ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง และสามารถทำได้ทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากแต่อย่างใด
- ก่อนอื่นให้จุดธูป 3 ดอก และเทียนบูชา 1 เล่ม แล้วสวดคาถาบูชา ดังนี้
- ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดว่า สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ
- คาถาหัวใจพระสีวลี สวดว่า “นะชาลีติ“ เชื่อว่า จะทำให้เกิดโชคลาภ ร่ำรวยในการค้าขาย สะดวกในเรื่องธุรกิจติดต่อศัตรูหมู่มารที่มุ่งร้าย จะกลับกลายเป็นมิตร เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตลอดไป
- การสวดพระคาถาสีวลีระจำวัน ถ้าสวดได้ทุกวันจนครบทั้ง 7 วันก็ยิ่งดี แต่ถ้าท่านจะขอลาภเป็นพิเศษ อาทิ จะติดต่อการธุรกิจสำคัญๆในวันใดวันหนึ่ง ก็สวด คาถาบูชาพระสีวลี นำก่อนหลังจากนั้นจึงสวด คาถาขอลาภพระสีวลีประจำวัน ตามกำลังวันของวันนั้นๆเวลาไปติดต่อธุรกิจหรือกำลังค้าขายอยู่ให้ภาวนาหัวใจไว้ในใจตลอดเวลาว่า “นะ ชาลีติ ปะสิทธิลาภา” ถ้าจะให้ดีควรเสกน้ำก่อนล้างหน้า หรือสวดก่อนนอนทุกคืน ตามกำลังวัน ให้ตั้งใจอธิฐาน ขอให้เป็นน้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ตามจิตปรารถนา จะเป็นเมตตามหานิยม ทางทำราชการ ดีนัก ค้าขายก็ดี ให้อาราธนานำน้ำมนต์ประพรมของจะขายง่าย ทางลาภต่างๆช่วยให้ราศีที่เศร้าหมองผ่องใสได้ นอกจากนั้น ยังปัดเป่าเคราะห์โศกโรคภัย คุ้มครอง ภยันตรายต่างๆป้องกันศัตรูทั้งปวง
คาถาบูชาพระสีวลีทั้ง 7 วัน มีดังนี้
- วันอาทิตย์ (ให้ภาวนา 6 จบ) ฉิมพะลี จะ มหานามัง สัพพะลาภัง ภะวิสสะติ เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ
- วันจันทร์ (ให้ภาวนา 15 จบ) ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทูเรหิวา สะมีเปหิวา เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ
- วันอังคาร (ให้ภาวนา 8 จบ) ฉิมพะลี จะมหาเถโร โสฬะโห ปัจจะยาทิมหิ เชยยะลาโภ มหาลาโภ สัพพะลาภา ภะวันตุ สัพพะทา ฯ
- วันพุธ (ให้ภาวนา 17 จบ) ทิตติตถะภะเวราชา ปิยาจะ คะระตุเม เย สารัตติ นิรันตะรัง สัพพะสุขาวะหา ฯ
- วันพฤหัสบดี (ให้ภาวนา 19 จบ) ฉิมพะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ
- วันศุกร์ (ให้ภาวนา 21 จบ) ฉิมพะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะรปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุ เม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ ภะวันตุ สัพพะทาฯ
- วันเสาร์ (ให้ภาวนา 10 จบ) ฉิมพะลี จะ มหานามัง อินทาพรหมา จะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ปะสิทธิ เม เถรัสสานุภาเวนะ สะทา สุขี ปิยัง มะมะ ฯ
การสวดมนต์ขอพรจากพระสีวลี จะมีคาถาบูชาพระสีวลี กับ คาถาบูชาของลาภพระสีวลีประจำวันเกิด สามารถเลือกสวดบทไหนก็ได้ หรือถ้าจะให้ดีและเกิดผลสำเร็จก็ควรที่จะต้องท่องบทสวดพระสีวลีทั้งสองบทเป็นประจำทุกวัน หรือจะเลือกสวดเฉพาะคาถาบูชาพระสีวลีอย่างเดียวก็ได้ แต่ถ้าวันไหนที่มีเรื่องสำคัญจะต้องไปติดต่อหรือต้องการให้พระสีวลีช่วยเป็นพิเศษก็ให้ท่องคาถาบูชาของลาภพระสีวลีประจำวันเกิด โดยให้สวดตามจำนวนกำลังวันของตัวเองเข้าไปด้วย เพื่อให้เสริมบุญบารมีให้ได้ดั่งใจปราถนา
จากตำนานที่เล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระสีวลีแล้ว เชื่อว่าใครหลายคนก็อยากจะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตกันบ้าง ซึ่งเคล็ดลับการบูชาพระสีวลีก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย เพียงแค่ท่องคาถาพระสีวลีเป็นประจำทุกวัน และเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยทำให้สัมฤทธิ์ผลมากยิ่งขึ้นก็คือ การทำบุญทำทานให้กับคนที่ยากไร้หรือคนที่เดือดร้อน ซึ่งการทำบุญทำทานนี้ก็สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการบริจาคเงินหรือสิ่งของ และทุกครั้งในการทำบุญจะต้องอุทิศบุญส่งไปให้พระสีวลีทุกครั้ง เพราะนั้นจะถือว่าเป็นการส่งบุญของตัวเองเพื่อเชื่อมไปถึงพระสีวลี เพื่อให้ท่านรับรู้ถึงความต้องการของเรา ฉะนั้นหัวใจสำคัญหรือเคล็ดลับในการบูชาพระสีวลีก็คือ การทำบุญทำทานด้วยใจที่บริสุทธิ์นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news