นายกรัฐมนตรี ย้ำพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่เลื่อนโครงการคนละครึ่ง สั่งทหารตำรวจลงพื้นที่แคมป์คนงานป้องกันแรงงานเคลื่อนย้ายกลับบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ว่า การหารือในวันนี้เป็นการหารือร่วมกันของรัฐบาล กระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงโรงเรียนแพทย์ พร้อมกับระบุว่าที่ผ่านมามีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อนำมาพิจารณา ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน วันนี้ต้องทำความเข้าใจกันว่าสิ่งที่เดือดร้อน ขณะนี้เกิดจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในปัจจุบัน จึงต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มคลัสเตอร์แรงงาน ซึ่งมีผลกระทบใน 6 จังหวัด ที่ประกาศออกไป ตามประกาศคำสั่งฉบับที่ 25 เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน และจะเยียวยาไปยังจุดอื่น เพื่อให้เกิดความทั่วถึงในหลายๆกิจกรรม เป็นแนวทางเดียวกับที่เคยทำมาแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้และคนละครึ่งจะออกไปตามกำหนดการเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเยียวยา ซึ่งจะมีงบประมาณที่เตรียมไว้แล้ว ทั้งจากทำให้ส่วนของรัฐบาลและเงินจากกองทุนประกันสังคม รวมแล้ว 7,500 ล้านบาท จึงต้องเร่งดำเนินการให้ได้ โดยประกาศนี้ได้จ่ายเงินสมทบให้ลูกจ้างประกันสังคมประมาณ 2,000 บาท โดยตรงในระยะเวลา 1 เดือน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่ารู้สึกห่วงใยในการสั่งปิดแคมป์ก่อสร้าง โดยตั้งแต่เช้าวันเสาร์ 26 มิ.ย. ซึ่งได้สั่งการให้ทหารตำรวจลงปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายกลับบ้านลดการแพร่เชื้อไปยังที่อื่น ซึ่งตนมองว่าการกลับไปบ้าน ไม่มีใครอยากกลับ เพราะจะถูกควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ โดยหากแรงงานอยู่ในพื้นที่ควบคุมจะได้รับการชดเชยจากกระทรวงแรงงาน ร้อยละ 50 รวมไปถึงดูแลเรื่องอาหารการกิน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเป็นห่วงร้านอาหารรายย่อย ซึ่งขณะนี้ไม่ค่อยออกมานอกบ้าน โดยจะหาแนวทางร่วมกันกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งแนวทางเยียวยาทางกรุงเทพฯได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมยอมรับอีกว่ามีหลายคนไม่สบายใจหรือไม่พอใจ แต่ต้องเข้าใจว่าจะต้องบริหารงานให้เป็นระบบให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเกิดปัญหาพันกันยุ่งเหยิงต่อไปในอนาคต ซึ่งรัฐบาลต้องดำเนินการให้รอบคอบและรัดกุม โดนสิ่งที่เห็นชอบในวันนี้ จะนำเข้าประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 29 มิ.ย. นี้ โดยสิ่งที่ดูแลนอกจากลูกจ้างแล้วก็จะดูแลนายจ้างด้วย ไม่ใช่แค่ขาดทุนก็จะชดเชยตามจำนวนลูกจ้างที่มีอยู่ แต่ไม่เกิน 200 คน ส่วนกลางเงินชดเชยผู้ประกอบการสถานบันเทิงก็จะมีการพิจารณาเช่นเดียวกัน แต่ขณะนี้เป็นการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากประกาศคำสั่งที่ฉบับที่ 25
นายกฯ พร้อมรับฟังความเห็นทุกคน ยืนยันจะดูแล ปชช. เต็มที่ จ่อลงพื้นที่เปิดภูเก็ต Sandbok 1 ก.ค. นี้ ย้ำไม่มีปัญหาเดินหน้าต่อได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมาก ว่า ต้องยอมรับในหลักการ หากไม่ค้นหาเชิงรุกก็จะไม่ขึ้น เนื่องจากบางคนไม่แสดงอาการ บางคนแข็งแรง แต่ก็เอาเชื้อไปแพร่คนอื่น จึงต้องยอมรับตัวเลขตรงนี้ว่าสูงขึ้น แต่ต้องดูที่ยอดผู้รักษาหายรายวันด้วย พร้อมยืนยันว่า จะดูแลเต็มที่ และรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ไม่ว่าจะชอบไม่ชอบนายกฯก็ตามต้องเอามาดูแลทั้งหมด และต้องดูว่าอะไรที่ทำได้ไม่ได่ แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์หรือในเชิงสร้างความเกลียดชัง หรือความขัดแย้งมากๆ ไม่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง ซึ่งไม่ได้รังเกียจใครเพราะทุกคนคือคนไทย ซึ่งก็เสียใจอยู่เหมือนกัน ที่หลายๆคนใช้วาจากิริยาไม่สุภาพ แต่ก็อดทน พร้อมถามว่า วันนี้ควรหรือไม่ในประเทศนี้
สำหรับการเปิดภูเก็ต sandbox นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเดินทางลงพื้นที่เปิดในวันที่ 1 ก.ค. นี้ และขณะนี้ก็ไม่มีปัญหา ต้องหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อเดินหน้า โดยวันนี้ต้องฟังแพทย์และกระทรวงสาธารณสุข และเมื่อประสบความสำเร็จก็จะขยายไปยังพื้นที่เกาะอื่น และขยายสู่แผ่นดินใหญ่ต่อไป
ขณะที่เรื่องเตียงโรงพยาบาลสนาม ที่ยังมีคนต้องรอเตียงอยู่จำนวนมาก นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ได้เร่งเพิ่มเตียงรับผู้ป่วยสีแดง หากไม่พอต้องขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีการประเมินด้านสาธารณสุข แต่ปัญหาสำคัญคือต้องมีบุคลากรทางการแพทย์ ที่จะนำนักศึกษาแพทย์จบใหม่ เข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้
โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะต้องนำผู้มีความรู้เข้ามาประเมินสถานการณ์ ซึ่งต้องคิดซับซ้อน หลายอย่างถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง เห็นใจซึ่งกันและกัน ถ้าเราไม่เห็นใจซึ่งกันและกันการทำงานก็จะไปไม่ได้ แล้วความขัดแย้งจะสูงขึ้น พร้อมกับระบุว่า ตนยืนอยู่ตรงนี้ไม่หวั่นไหว ตนจะทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่ตนยังทำได้ ตนรักประชาชน รักอย่างเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ไม่ต้องการอะไรจากเขา ตนดูแลให้ได้มากที่สุด ซึ่งรัฐบาลทุกคนช่วยกันทั้งหมด รัฐบาลเป็นหนึ่งเดียว ส่วนเรื่องอื่นๆ ทั้งในส่วนของสภา ก็ให้ว่ากันไป แต่เราจะดูแลประชาชนในตรงนี้ ต้องไปดูผลงานที่ ครม. ทำมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news