ลูกเสือเขาไม่จับมือขวา ยืนซ้ายมาจับมือกันมั่น วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปีคือวัน ลูกเสือแห่งชาติ วันนี้ขอชวนทุกคนมาย้อนวัย ใส่หมวก ผูกผ้าพันคอ ติดวอกเกิ้ลกันหน่อยดีกว่า วันนี้เราจะพาไปรู้จักประวัติวันลูกเสือแห่งชาติแบบย่อๆกัน
ประวัติวันลูกเสือแห่งชาติ
ลูกเสือของไทย เริ่มต้นขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ( ร.6 ) มีพระบรมราชองค์การโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนากองเสือป่าขึ้น ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2454 จุดมุ่งหมายเพื่อฝึกอบรม ข้าราชการพลเรือน ให้มีความรู้ด้านทหาร เพื่อเป็นกำลังสำรองในยามเกิดศึกสงครามและบำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนในยามสงบ
ด้วยเหตุนี้ จึงมีพระบรมราชโองการจัดตั้งกองลูกเสือขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม ตอนนั้นประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ของโลกที่จัดตั้งกองลูกเสือขึ้นต่อจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นก็ได้ก่อตั้งกองลูกเสือขึ้นแล้วก็ดำเนินกิจกรรมมาเรื่อยๆ และเพื่อเป็นการระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือไทยเลยให้วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ หรือ วันลูกเสือ
เกร็ดสนุกๆวันลูกเสือ
- ผู้ก่อตั้งลูกเสือของโลกชื่อ ลอร์ดบาเดน เพาเวลล์ (บี – พี)
- ลูกเสือไทยคนแรกชื่อ ชัพน์ บุนนาค
- ลูกเสือมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Scout
- S-Sincerity ความจริงใจ
- C-Courtesy สุภาพอ่อนโยน
- O-Obedience การเชื่อฟัง
- U-Unity ความเป็นใจเดียวกัน
- T-Thrifty ความมัธยัสถ์
- เมาคลี เป็นตัวละครในหนังสือนิยายของ รัดยาร์ด คิปลิง เป็นเด็กชายที่ถูกเลี้ยงโดยหมาป่า
- เชียร์ คาน เป็นเสือโคร่งเบงกอล (ตัวร้าย)
- สาเหตุที่ไม่จับมือขวา มาจากสงครามของอังกฤษกับชนเผ่าซูลู ตอนนั้นจะสงบสงคราม และจะจับมือกัน แต่หัวหน้าเผ่าไม่ยอมจับด้วยมือขวา เพราะมือขวาฆ่าคนมาจาก เลยใช้มือซ้ายแทน
- การชุมนุมรอบกองไฟ มาจาก บี-พี ที่ใช้เพื่อทำกิจกรรม ปลุกใจ ประกอบพิธี เลยเป็นกิจกรรมชุมนุมรอบกองไฟ
ในต่างประเทศ ลูกเสือ จะได้รับการฝึกอบรมเยอะมากและมีทักษะหลากหลายให้เลือกฝึก ในประเทศไทยเองก็มีการพูดคุยกันบ่อยเช่นกันว่าน่าจะเป็นวิชาเลือกมากกว่าวิชาบังคับ แล้วทุกคนคิดเห็นว่ายังไงกันบ้าง บอก ไอ.เอ็น.เอ็น. ไว้หน่อย
หากชอบก็ฝากกดถูกใจ กดติดตามในทุกช่องทางที่คุณอ่านเพื่อจะได้ไม่พลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ก่อนใครกับ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
