“พล.อ.ประวิตร ” เสียใจ ถูกตีความคำพูด “จะเอาอะไรอีก” ผิด แจงความจริงหมายถึงการถามกลับนักข่าวว่ามีอะไรอีกไหม ปัดตอบปมส.ส.พปชร ไม่ร่วมประชุมสภา
มีรายงานจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิด พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หลังจากที่วานนี้ (30 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พลเอกประวิตร ถึงกรณี ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืนเปิดแคมเปญ #กูจะเปิดแล้วมึงจะทำไม เนื่องจากทนไม่ไหวกับภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ ที่ได้ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามช่วยทุกอย่าง ทั้งร้านอาหารและผู้ใช้แรงงานทั้งหมดแล้วจะเอาอะไรอีก นั้น ว่า พล.อ.ประวิตร ได้รู้สึกเสียใจที่ถูกตีความคำพูด “จะเอาอะไรอีก” ผิด
ซึ่งความจริง พลเอกประวิตร หมายถึงการถามกลับนักข่าว ว่ามีอะไรถามอีกหรือไม่ ซึ่งเป็นคำพูดที่ พล.อ. ประวิตร มักพูดอยู่เสมอหลังตอบคำถามจบ
“ประวิตร” ปัดตอบปมส.ส.พปชร ไม่ร่วมประชุมสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไม่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย หลังมีกระแสโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์การตอบคำถามกรณีช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบ จากการประกาศฉบับที่ 25 โดยเดินขึ้นรถทันทีด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ประวิตร” เรียกประชุม คกก. เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 2 คณะ ย้ำ พม.เข้าปกป้องคุ้มครองเหยื่อ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จำนวน 2 คณะต่อเนื่องกัน ณ ห้องประชุม 301 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมประชุม
โดยที่ประชุมเห็นชอบ แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปี 64 ที่เน้นให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาสถานการณ์เฉพาะ และการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน การป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว
รวมทั้งเน้นการยกระดับการแก้ปัญหาให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ และการคุ้มครองผู้เสียหาย
จากนั้นได้ประชุมติดตามผลการดำเนินงานทางวินัยและการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ปี 55 ถึงปัจจุบัน รวม 77 ราย รวมถึงได้พิจารณาการปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยให้เพิ่มช่องทางการรับแจ้งเหตุและให้สามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไปพรางก่อน และร่วมกันกำหนดความหมายของ “การค้ามนุษย์” ให้ครอบคลุมถึงการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับให้นำผลงานวิจัยและรายงานข้อคิดเห็น ของ Seafood working Group หรือ SWG เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลไทย ในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ทั้งการป้องกัน การดำเนินคดีและการคุ้มครองเหยื่อที่ผ่านมา ที่มีประเด็นตรงกับข้อเท็จจริงไปขับเคลื่อนแก้ปัญหา สำหรับประเด็นข้อเสนอที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ขอให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดทำข้อเท็จจริงเสนอข้อมูลผ่าน กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรระหว่างประเทศ ที่เข้าใจคลาดเคลื่อนภายใน 7 วัน
พร้อมย้ำให้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าปกป้องและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทันที ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างประเทศ แยกความแตกต่างระหว่างคดีบังคับใช้แรงงานกับคดีค้ามนุษย์ โดยให้สืบต้นตอความเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกกรณี
และ ขอให้ กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญผลักดัน ให้นายจ้างลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในระบบโดยเร็ว พร้อมย้ำว่า ต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือการทุจริตโดยเด็ดขาด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
