ปิดชุมชนข้างวัดนางตรา เฝ้าระวังคลัสเตอร์ “ครูกศน.ปัตตานี” หลังแพร่กระจายแล้วกว่า 20 คน สัมผัสเสี่ยงสูงอีกกว่า 300 คน
ชุมชนข้างวัดนางตรา หมู่ 3 ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ถูกสั่งปิดพื้นที่ห้ามเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับชุมชนซอยหมอคล้อย ห่างจากจุดนี้ไปราว 300 เมตร ถูกปิดพื้นที่เช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งสองชุมชนได้ปรากฎคลัสเตอร์ครูกศน.ปัตตานี ที่เดินทางมาในพื้นที่และได้แพร่เชื้อให้สามี เครือญาติ และเพื่อนในชุมชน ที่มีความใกล้ชิดกันจำนวนรวม 19 คน นอกจากนั้นยังมีการติดเชื้อจากคลัสเตอร์เดียวกันในอำเภอลานสกา อีก 4 ราย โดยผู้ที่ติดเชื้อทั้งหมดได้มีการสอบสวนโรคพบว่าทั้งหมดได้รับการแพร่เชื้อจากครูกศน.ปัตตานี รายหนึ่งที่ได้เดินทางมาจากจังหวัดปัตตานีและเข้ามามีกิจกรรมในชุมชนที่ล้วนเป็นเครือญาติใกล้ชิดกัน และยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ติดเชื้อทั้งหมดอีกกว่า 300 ราย
นายสุรินทร์ สุกสาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลาเผยว่าในพื้นที่พบผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนทั้ง 2 แห่ง อย่างต่อเนื่อง สมาชิกในชุมชนกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ส่วนผู้ป่วยนั้นทางโรงพยาบาลท่าศาลา ได้มารับตัวเข้ารับการรักษาแล้ว ในส่วนของการจัดการพื้นที่คือการปิดล็อกชุมชนห้ามเข้าออกอย่างเด็ดขาดและเร่งตรวจหาเชื้อจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ขณะที่ นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยการสอบสวนโรคในคลัสเตอร์นี้พบว่าจุดเริ่มต้นมาจากการติดเชื้อของครูกศน.รายหนึ่งในจังหวัดปัตตานีที่เดินทางกลับบ้านที่นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการได้นำเชื้อมาแพร่ที่บ้านในอำเภอลานสกา 4 ราย หลังจากนั้นได้เดินทางมาที่ศาลาแพร่กระจายให้กับสามีและกลุ่มเครือญาติเพื่อนฝูงอย่างต่อเนื่อง
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่าข้อสรุปในการรับผู้ติดเชื้อชาวนครศรีธรรมราชที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ที่ประสบปัญหาไม่สามารถหาเตียงรักษาได้ให้กลับบ้านโดยขอให้ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อประสานงานล่วงหน้า แต่ต้องมีเงื่อนไขในการเดินทางที่ต้องเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ห้ามเดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถโดยสารสาธารณะ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news