เปิดแล้ว “Samui Plus Model” ต่อยอด ภูเก็ตแซนด์บอกซ์
นายกฯ เป็นประธานพิธีเปิด Samui Plus Model นำร่องรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ต่อยอดจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ขณะ 16 ก.ค. ถก ศบค. ประเมินสถานการณ์โควิด
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model (ผ่านระบบ Video Conference) ณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเป็นกิจกรรมการเปิดพื้นที่นำร่องเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ภายใต้ Samui Plus Model ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่ได้รับวัคซีนแล้ว เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ต่อยอดจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งได้เปิดโครงการไป เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยว Samui Plus Model ถือเป็นการดำเนินการที่มีความต่อเนื่อง จากภูเก็ต sandbox โดยมีเป้าหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจ และคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่เป็นหลัก
ซึ่งสิ่งสำคัญการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงเงื่อนไขการท่องเที่ยวในเกาะสมุย เนื่องจากมีหลายประเด็นที่แตกต่างจากการเปิดภูเก็ต sandbox เช่น การกำหนดให้นักท่องเที่ยวอยู่ภายในโรงแรมใน 3 วันแรก การสร้างความเข้าใจในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
ซึ่งเชื่อมั่นว่าประชาชนผู้ประกอบการชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท จากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อคืนความสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง
นายกฯ ถก ศบค. 16 ก.ค.นี้ “ประเมินแพร่ระบาด-การใช้ชุดตรวจโควิดแบบเร็ว-จัดหา,บูสเตอร์,สลับสูตรวัคซีน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 )หรือ ศบค.ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริการสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ครั้งที่ 10/2564 ที่ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปลัด กทม.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขาธิการองค์การอาหารและยา (อย.) เลขาธิการองค์การเภสัชกรรม ( อภ.)เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม( สศช.) เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ( สปสช.)
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าทีมจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เอกชน นพ.อุดม คชินทร นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา จาก รพ.ศิริราช นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ จากรพ.จุฬาฯ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา รพ.รามาฯ นพ.ยง ภู่วรวรรณ
สำหรับวาระประชุม มีเรื่องประธานแจ้งที่ประชุมทราบ วาระพิจารณาใน 4 เรื่อง ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข รายงาน คือ
1.การประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ในห้วงปัจจุบันและวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต พร้อมข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการรองรับ
2.เรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด – 19แบบ Antigen Test Kit
3.มาตรการ บับเบิ้ล แอนด์ ซีล( Bubble and Seal )มาตรการรักษาตัวที่บ้าน ( Home Isolation )และศูนย์พักคอยในชุมชน ( Community Isolat)
และ 4.ประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน ทั้งแนวทางการฉีดวัคซีนแบบผสมสูตร แนวทางการฉีดวัคชีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) แนวทางการจัดหาวัคซีน ทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก รวมถึงแนวทางการแจกจ่ายวัคซีน และวาระอื่นๆ เป็นต้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news