ลากล็อกดาวน์2เดือนสยบ”เดลตา”
ยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ทะลุ 1 หมื่นคนต่อวัน และเสียชีวิตเฉียดวันละ 200 คน นำมาสู่มาตรการ ล็อกดาวน์ พื้นที่สีแดงเข้มอีก 3 จังหวัด คือ ชลบุรี, อยุธยา, ฉะเชิงเทรา รวมเป็น 13 จังหวัด พร้อมขยายเคอร์ฟิวช่วง 3 ทุ่ม ถึง ตี 4 มีผลเพิ่มอีก 14 วันนับตั้งแต่ 20 ก.ค. และยังมีข้อบังคับอีกนับไม่ถ้วนที่ประกาศออกมา โดยหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.บอกว่า ถ้าไม่มีมาตรการเข้มข้นออกมาในครั้งนี้ ตัวเลขการติดเชื้อรายวันจะพุ่งทะลุ 3 หมื่นคน
มาตรการที่เข้มงวด แน่นอนว่า ย่อมมีผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย แต่จะมากน้อยแค่ไหน จะ “เจ็บแล้วจบ” หรือไม่ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.มีคำตอบ
เริ่มต้นที่ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองว่า การล็อกดาวน์แบบเข้มงวดรอบนี้ กระทบต่อ GDP เศรษฐกิจไทย ช่วงครึ่งปีหลัง และมีโอกาสสูงที่ GDP Growth ทั้งปี 2564 อาจจะต่ำกว่า 1% และอาจจะพลิกกลับมาติดลบ โดยจะกระทบมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการ Lockdown จะยาว นานแค่ไหนเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
สอดรับกับ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน มองว่า การยกระดับมาตรการเข้มข้น ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายอย่างต้องหยุดชะงัก ซึ่งประเมินว่า การล็อกดาวน์รอบนี้จะลากยาว 1-2 เดือน ขณะที่การฉีดวัคซีนยังค่อนข้างล่าช้า และโครงการ Phuket Sandbox ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 2564 ลงสู่ 1.5% จาก 2.1%
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า การระบาดของโควิด-19 รอบนี้ ซึ่งมีสายพันธุ์เดลต้าเป็นสายพันธุ์หลักและเป็นสายพันธุ์ที่พิสูจน์แล้วว่า มีความรุนแรงที่ทำให้ผู้ป่วยอาการทรุดเร็วกว่าและติดต่อกันได้ง่ายกว่าเชื้อในรอบที่ผ่านมา เห็นได้จากเคสที่เข้ารับการรักษามีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที คาดว่า ภาครัฐอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติมจากที่ประกาศออกมาฉบับวันที่ 18 ก.ค. หากตัวเลขติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง โดยมองว่ายังมีความเสี่ยงจากการใช้มาตรการปิดทุกกิจการ ทุกกิจกรรม ในกทม. ปริมณฑล 100% รวมถึงจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำ
ข้ามมาที่ภาคเอกชน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ได้ประเมินผลกระทบ “ล็อกดาวน์” ต่อเนื่อง 1-2 เดือน ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 1-2 แสนล้านบาท และหากมีการประกาศล็อกดาวน์เพิ่ม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องเตรียมเพิ่มเพื่อชดเชยในส่วนที่จะได้รับผลกระทบมากขึ้นด้วยและจะต้องทำให้เร็ว เพื่อประคองไม่ให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงแรง และเชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้จะยังเป็นบวกได้
ด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า การประกาศพื้นที่ล็อกดาวน์เพิ่มเติมอีก 3 จังหวัด จะไม่กระทบภาคการผลิตหากภาครัฐยังใช้มาตรการเท่าเดิม การส่งออก ระบบโลจิสติกส์ยังเดินหน้าต่อไปได้ แต่ปัญหาคือเมื่อล็อกดาวน์แล้วจะสามารถควบคุมการระบาดได้หรือไม่ วัคซีนที่ขาดไปจะมาครบไหม จะมีวัคซีนทางเลือกหรือไม่ รวมทั้งจะใช้ชุด Antigen Test Kit มาตรวจคัดแยกคนป่วยติดเชื้อออกจากคนปกติได้เร็วแค่ไหน เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อที่กำลังขยายวงกว้าง ไม่ให้รัฐบาลต้องล็อกดาวน์ไปเรื่อย ๆ และเยียวยากันแบบไม่จบสิ้น
และนี่ ก็คือเสียงสะท้อนของภาคธุรกิจ ที่เชื่อมโยงไปยังตลาดทุน ที่ล้วนมองว่า กุญแจหลักที่เป็นความหวังของประเทศไทย นั่นคือการเร่งหาวัคซีนโควิด-19 หลายชนิดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อมาเร่งฉีดให้กับประชาชน อันจะเป็นผลให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ต่อไปนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news