สภากาชาดไทยเปิดเอกสารยืนยันกรณีจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา
สภากาชาดไทย เปิดเอกสารยืนยันกรณีจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 1 ล้านโดส ชี้ไม่ได้เป็นการตัดยอดของ รพ.เอกชน แต่เป็นการสั่งจองไว้ก่อนแล้ว
สภากาชาดไทย ชี้แจงกรณีจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 1 ล้านโดส ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “The Thai Red Cross Society” ระบุว่า ตามที่มีผู้เข้าใจว่า สภากาชาดไทยตัดยอดวัคซีน จำนวน 1 ล้านโดส จากจำนวนวัคซีน 5 ล้านโดส ที่องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อจากผู้แทนจำหน่ายนั้น
สภากาชาดไทย ขอเรียนยืนยันตามหนังสือจากบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ถึงสภากาชาดไทย เรื่อง “การแจ้งยืนยันการจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา ของสภากาชาดไทย” ลงวันที่ 18 ก.ค.2564 ใจความระบุว่า “ตามที่ได้รับการติดต่อจากสภากาชาดไทยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อขอจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา จำนวน 1 ล้านโดส โดยเริ่มส่งภายในไตรมาส 4 ของปี 2564 และขอทำสัญญาซื้อขายโดยตรงกับทางบริษัท แต่เนื่องจากทางบริษัทฯยังไม่สามารถทำสัญญาโดยตรงกับสภากาชาดไทย สำหรับวัคซีนที่จะมาถึงภายในปีนี้จึงจำเป็นต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งองค์การเภสัชกรรมให้ทราบแต่ต้นว่าวัคซีน 1 ล้านโดส ในปี 2564 เป็นของสภากาชาดไทย
สำหรับความต้องการสั่งจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา เพิ่มเติมจากสภากาชาดไทย จำนวน 5 ล้านโดส วัคซีนนี้จะส่งมอบภายในปี 2565 จะเป็นวัคซีนที่ครอบคลุม Variants of Concern (VOC) ทางบริษัทได้ประสานงานแจ้งการจองปริมาณดังกล่าวไปยังผู้ผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการด้านเอกสารและพิจารณาข้อสัญญาในลำดับต่อไป ทั้งนี้ จะเป็นการสั่งซื้อตรงจากบริษัท โดยไม่ต้องผ่านองค์การเภสัชกรรม
ทางบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือในการเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ให้หมดไปในเร็ว เพื่อนำเศรษฐกิจและชีวิตปกติสุขกลับคืนมาโดยเร็ว ทางบริษัทขอขอบพระคุณท่านที่ได้ให้การสนับสนุน บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ด้วยดีเสมอมาและขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้”
ดังนั้น การสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาจำนวน 1 ล้านโดส ของสภากาชาดไทย จึงไม่ได้เป็นการตัดยอดออกมาตามที่เข้าใจ แต่เป็นการสั่งจองไว้ก่อนแล้ว แยกจากวัคซีนจำนวน 4 ล้านโดส
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news