รัฐบาล แจงปม ตร.บุรีรัมย์ฉีดวัคซีนเข็ม3
รัฐบาล แจง ตร. บุรีรัมย์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ทำหน้าที่รับส่งผู้ป่วย ยันใช้ไฟเซอร์เป็นบูสเตอร์โดสให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมอบหมายให้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตอบคำถามต่อสื่อมวลชนแทน ถึงกรณีมีภาพตำรวจใน จ.บุรีรัมย์ รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 3 จนถูกสังคมตั้งคำถามว่าจังหวัดนี้มีอภิสิทธิ์ชน มีการเมืองสนับสนุนหรือไม่ ว่า เรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฉีดนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการส่งผู้ป่วยไป-มา ดังนั้น ถือเป็นบุคลากรด่านหน้าส่วนหนึ่ง แต่ที่นายกรัฐมนตรีได้รับทราบจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่จะนำเข้ามาจากการบริจาคนั้น ส่วนใหญ่จะจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก รวมทั้งบุคลากรด้านหน้าบางส่วน ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจถึงความโปร่งใสในการบริหารจัดการ
รัฐบาล ขอประชาชนมั่นใจ ออกซิเจนไม่ขาดทั้งในโรงพยาบาลหลัก-โรงพยาบาลสนาม หลังกระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์ต่อ ครม.
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กล่าวถึงปริมาณความต้องการออกซิเจนที่เพิ่มมากขึ้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความเชื่อมั่นกับคณะรัฐมนตรีว่าไม่ได้มีการขาดแคลนออกซิเจนแต่อย่างใด และได้มีการพูดคุยกับสมาคมต่างๆ และได้รับการยืนยันว่า จำนวนการผลิตของออกซิเจนสามารถดำเนินการได้อย่างไม่มีปัญหา ในการส่งมอบให้กับส่วนต่างๆ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าพร้อมที่จะดูแลผู้ป่วยว่าจะมีออกซิเจนเพียงพอ ทั้งในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม
นายกฯ สั่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น มอบเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดังกล่าวย้ำให้ความสำคัญกับทุกส่วน ในการดำเนินงานในการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในชุมชน เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งการจัดสรรบุคลากรจัดสถานที่พักคอย จัดโรงพยาบาลสนาม และให้คณะแพทย์พยาบาลเข้ามาเพิ่มเติม รวมไปถึงการส่งผู้ป่วยกลับยังภูมิลำเนา ซึ่งได้มีการประชุมไปในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีการให้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการไปยังหน่วยงาน ทั้งสังกัดกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีการปรับสโมสรต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการใช้ประโยชน์อะไรได้อยู่ให้นำมาเป็นโรงพยาบาลสนาม เอาจากนั้นให้เพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ดูแลผู้ป่วยสีเขียว โดยจะให้มีการปรับเพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง รวมไปถึงมอบแนวทางให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อชัดเจนในการปฏิบัติตน หากต้องดูแลรักษาตัวเองที่บ้านหรือการทำ Home isolation โดยหากไม่สามารถดูแลตนเองที่บ้านเนื่องด้วยปัญหาอุปสรรคต่างๆ ก็ให้กลับตัวภายใน Community isolation เพื่อลดการแพร่ระบาดในครอบครัว และในชุมชน
พร้อมกันนี้ ยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ อาสาสมัครต่างๆ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีอยู่ ในการช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และจะส่งยา ทั้งฟ้าทะลายโจรหรือฟาวิพิราเวียร์ และการดูแลอาหารการกินให้กับผู้ป่วย
รัฐบาลเร่งดำเนินการส่งผู้ป่วยรักษาตัวภูมิลำเนา ลดปัญหาการเข้ารักษาในกทม. หนุนทีม CCRT ตรวจคัดกรองชุมชน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินการให้ผู้ป่วยสามารถที่จะรักษาตัวที่ภูมิลำเนาได้ ตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่กำกับไว้ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เพื่อลดปัญหา การเข้ารับการรักษาในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเตียงและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความประสงค์กลับภูมิลำเนาโดยในปัจจุบันมีการจัดขบวนรถไฟ ในการจัดส่งผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ กลับไปรักษาตัวในจังหวัด 7 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทั้ง นครราชสีมา ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานีศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ โดยมีสถานีรถไฟต้นทางอยู่ที่รังสิต ปลายทางอุบลราชธานี โดยขบวนรถไฟเป็นระบบปิด โดยเมื่อถึงสถานีปลายทางจะมีรถพยาบาล มารับผู้ป่วยต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม
นอกจากนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีการสนับสนุนทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด -19 เชิงรุก หรือ CCRT ซึ่งจะเป็นหน่วยเคลื่อนที่ไปยัง 50 เขตภายในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจคัดกรองเชิงลูกค้าผู้ติดเชื้อในชุมชน และจะสามารถช่วยยับยั้งในการติดเชื้อ
ขณะที่การรับเรื่องผู้ป่วยผ่านทางสายด่วนต่างๆ นายกรัฐมนตรีได้มีมาตรการให้ไปปรับปรุง เพื่อให้ความสะดวกทั้งผู้ติดเชื้อและญาติ เพื่อเข้ารับการรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องโทรเข้ามาในสายด่วนต่างๆซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการให้สามารถติดต่อสายด่วนต่างๆได้ฟรี
นายกฯ มอบพาณิชย์คุมราคาฟ้าทะลายโจร หลังราคาพุ่งพรวดช่วงโควิด พร้อมเล็งจดลิขสิทธิ์
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีประชาชนร้องเรียนถึงราคาฟ้าทะลายโจรที่มีมีราคาสูงถึงกระปุกละ 500 บาท จะมีมาตรการในการควบคุมราคาอย่างไร ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ไปติดตาม รวมถึงไปดูเรื่องการจดลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งในที่ประชุม ครม. วันนี้ได้พูดถึงเรื่องการศึกษาจากกระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ ที่ได้ให้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิดในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ โดยมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่ามีผลดีสามารถลดอาการและดูแลผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจะมีนโยบายที่ชัดเจนออกไปทั้งในส่วนของการผลิต และราคาต่างๆ ทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news