ไม่ทำก็ลาออกไป-รบสื่อ
ไม่ทำก็ลาออกไป-รบสื่อ
ในขณะที่สถานการณ์โควิดยังพุ่งแรงแม้รัฐบาลจะอัดยาแรงทั้ง ”ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” ตั้งแต่ 12 ก.ค.ครบลูป 14 วัน ไปวันก่อน แต่ยังไม่สามารถหยุดตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่ทำนิวไฮใหม่ทุกวันโดยวันนี้ (28ก.ค.) ยอดยังคงพุ่งไปที่ 16,533 ราย สะสม 514,498 ราย เสียชีวิต 133 ราย ในขณะที่ยังลุ้นกับมาตรการแก้ปัญหา ”เตียงเต็ม” จนทำให้ ”ประชาชนรอเตียง” เสียชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะ ระบบสาธารณสุขส่วนกลาง กรุงเทพ-ปริมณฑล ล้นด่านแบกรับไม่ไหวจริงๆ แม้จะแก้ด้วยการเร่งสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับนับหมื่นๆเตียง แต่ก็ยังมีประเด็น”ข้อจำกัด”บุคลากรทางการแพทย์ไม่พอรองรับ เพราะมีเท่าเดิม ทำให้มีการใช้วิธี “กระจายความเสี่ยง” ด้วยการส่งผู้ป่วยสีเขียว-เหลือง กลับบ้านต่างจังหวัด อย่างที่เมื่อวาน ”หมอหนู-ศักดิ์สยาม” ไปส่งผู้ป่วยนับร้อยขึ้นรถไฟที่รังสิต กลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด
เรียกว่าในประเด็นการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ยังแก้ไม่ตก หน้างานจนสถานการณ์เลยเถิด เกิดเป็นภาพสลด ”คนตายข้างถนน” อันส่งผลสะเทือน ความเชื่อมั่น ต่อต่อตัวนายกรัฐมนตรี ที่นั่งหัวโต๊ะศบค.บริหารแบบ”ซิงเกิ้ลคอมมานด์”รับผิดชอบแต่ผู้เดียว ที่แม้จะมีการกัน รัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลออกจากวงหลายครั้งที่เกิดปัญหาท่าทีไม่ว่าจะเป็นเคสระหว่าง สธ.กับ กทม. ตั้งแต่ครั้งปัญหารอเตียงเสียชีวิตจนมาเคสล่าสุดเรื่อง การฉีดวัคซีน กับรายงานข่าว การปะทะกันระหว่าง ”บิ๊กวิน” ผู้ว่ากทม.กับ ”หมออธิบดีสธ.” เมื่อวาน(27ส.ค.กลางวงประชุมที่นายกฯร่วมด้วย ในประเด็นโควตาวัคซีนที่โยงไปถึงข่าวลือ”ยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ”เพื่อผ่อนคลายท่าทีการเมือง จน ”นายกฯลุงตู่” ต้องออกหน้าดับข่าวลือเองยืนยันว่าไม่ยุบศูนย์
แต่ก็ใช่ว่าจะมีเฉพาะคู่ขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน หากแต่ยังมี ”หมอไม่ทน” บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่เคลื่อนไหวประเด็นวัคซีนไฟเซอร์ 15 ล้านโดสของสหรัฐฯที่จะมาพรุ่งนี้ (29ก.ค.) ที่พวกเขาต้องการให้ฉีดบูทต์เตอร์ให้ ”นักรบด่านหน้า” เพื่อเป็นเกราะป้องกันแต่ถูกตัดทอนจำนวนลงและมีการนำวัคซีนAzมาบูทต์ให้แทนก่อนหน้านี้ จนก่อเป็นปฏิกริยาไม่พอใจ
ที่กระแสความไม่พอใจตั้งแต่ ”หมอ” ไปถึง ”ประชาชน” กลายเป็นไปลงที่ ”นายกฯ” จนในห้วงหลายวันที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือการเปลี่ยนตัว โดย ”นายกฯลาออก” หลังมีการออกมาสำทับจากผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ในขณะที่หน่วยข่าวมั่นคงออกมายืนยันว่า ”ไม่ยุบ-ไม่ออก” ซึ่งก็สอดรับกับท่าทีการยืนยันของนายกฯว่าจะสู้จนกว่าเขาจะไม่ให้สู้ ที่แวดวงคนการเมืองอย่าง ”เทพไท เสนพงศ์” ก็ประเมินว่า ”บิ๊กตู่” จะไม่ยอมแพ้ถอดใจ ”ลาออก” แบบนายกฯที่มาจากการเมืองในสถานการณ์ที่แม้จะมีคนเจ็บตายเพราะมองแบบ ”ทหาร” ที่ต้องรบแบบกับ ”สงครามโควิด” ให้ชนะให้ได้ ที่เริ่มหันมามองทีมงานทั้งนักการเมือง ข้าราชการ หลังมีข่าวเกียร์ว่าง โดย มีการเรียกประชุมผู้ว่าฯ 13 จังหวัดสีแดง เพื่อรับมือ-เร่งแก้โควิดวันนี้ เมื่อวาน(27ก.ค.)ซึ่งมีรายงานว่า นายกฯบ่นกลางที่ประชุม ครม.ขอโฆษกทุกกระทรวงเร่งสื่อสารทำความเข้าใจประชาชนในเรื่องสถานการณ์โควิด ก่อนจะ เปรยดังๆ ว่า “ใครไม่อยากทำงานก็ลาออกไป”
ไม่แต่เท่านั้น อันเนื่องจากในทุกปฏิกริยาตกกระทบ ที่ส่งผลต่อสถานการณ์ ในโหมดความมั่นคง อันถนัด ภายใต้ ”พรก.ฉุกเฉิน” ที่ต่อเวลามาตามสถานการณ์โควิด 4 ภาค ยังทำให้ ”นายกฯ” ที่ให้น้ำหนักกับปัญหา เฟคนิวส์ หรือ ข่าวปลอม ที่ส่งผลกระทบสถานการณ์โควิด ออกมาย้ำ สั่งให้ทุกกระทรวงตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและให้ ฝ่ายเกี่ยวข้อง รวมถึง รมต.ดีอีเอส.เอาจริงดำเนินการกับ”สื่อมวลชน”ที่นำเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ ตาม ข้อกำหนดข้อที่ 11 จากประกาศฉบับที่ 27 ของ พรก.ฉุกเฉิน ว่าด้วยเรื่องการห้ามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างที่เคยมีการระบุว่าแม้เป็นความจริงก็ผิดกฎหมายมาใช้ที่หลังเทคแอ็กชันของ ”นายกฯ” เมื่อวาน วันนี้ (28ก.ค.) ”6องค์กรสื่อ” ได้ออกแสดงท่าทีแถลงการณ์ทันทีว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาที่ชัดเจนที่ต้องการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชนทั้งที่รัฐบาลล้มเหลวในการสื่อสารกับประชาชนอันเป็นผลจากการบริหารผิดพลาดของนายกฯ และสื่อมวลชนเชิญประชาชนร่วมกันเคลื่อนไหวแสดงออกทุกรูปแบบเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการตามข้อกำหนดดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news