“ลุง”ไม่“ล็อกดาวน์”นะจ๊ะ
เป็นไปอย่างที่หลายฝ่ายคาดว่า”ลุง”จะไม่ประกาศ”ล็อกดาวน์”เพื่อสกัด”โควิด”ภาค2ที่กำลังระบาดอย่างรวดเร็วจาก”ศูนย์กลางระบาด”ตลาดกลางกุ้งมหาชัย สมุทรสาคร ที่มีแรงงานต่างด้าวชาวพม่าจำนวนมาก หลังมีการประชุม ศบค.ชุดเล็ก และชุดใหญ่ ที่เคาะออกมาวันนี้ โดย”ลุง”แถลงกับ”นักข่าว”ก่อนว่าได้มอบให้แต่ละจังหวัดไปจัดการทั้งเรื่องการระบาดและการจัดการกับเรื่อง”ขบวนการแรงงานต่างด้าวเถื่อน”ที่ถูกระบุว่าอาจเป็น”ต้นตอปัญหา”การลักลอบนำเข้าแรงงานเหล่านี้ เพราะค่าจ้างถูกกว่า จนเกิดภาพ”นายจ้าง”ย่านสมุทรสาครพากันเทแรงงานเพื่อปัดความผิด ที่ทำให้”หมอ”ห่วงว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย จากการกระจายตัวของแรงงานต่างด้าวออกไป ทั้งที่รัฐบาลประกาศห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่ โดยศบค. ชุดใหญ่มีมติกำหนดพื้นที่ 4 กลุ่มทั่วประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการดูแล ควบคุมคือ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง = พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีมากกว่า 1 พื้นที่ (ย่อย) 2.พื้นที่ควบคุม สีส้ม = พื้นที่ที่ติดกับพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3.พื้นที่เฝ้าระวังสูง สีเหลือง = พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 4. พื้นที่เฝ้าระวัง สีเขียว = พื้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ โดย”พื้นที่ควบคุมสูงสุด”ให้ งดจัดกิจกรรมการเฉลิมฉลองทุกชนิด เว้นแต่กิจกรรมทางออนไลน์ มี 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร “พื้นที่ควบคุม”ให้ งดกิจกรรมที่เป็นสาธารณะ แต่ผ่อนผันให้จัดกิจกรรมที่จำกัดผู้เข้าร่วม หรือกิจกรรมที่มีเฉพาะผู้คุ้นเคย หรือบุคคลในครอบครัว และพิจารณาจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ มี 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรสงคราม ราชบุรี และนครปฐม “พื้นที่เฝ้าระวังสูง”สามารถ จัดกิจกรรมได้แต่ต้องลดขนาดของงาน มีมาตรการควบคุมความหนาแน่นของคนร่วมงาน และมีมาตรการควบคุม ซึ่งกลุ่มนี้มี 25 จังหวัด คือ สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อุตรดิตถ์ ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ อยุธยา ภูเก็ต เพชรบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี กระบี่ ขอนแก่น ชัยนาท อุดรธานี พิจิตร นครศรี สุราษฏร์ธานีธานี ประจวบคีรีขันธ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ และอ่างทอง และ”พื้นที่เฝ้าระวัง” คือ จังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ สามารถจัดกิจกรรมได้แต่ต้องลดขนาดของงาน และมีมาตรการควบคุมจำนวนคนไม่ให้หนาแน่น เรียกว่าดูทรงแล้วแม้จะส่ง”สัญญาณ”ว่าอาจต้องมีการเสียสละ ที่ทำให้หลายฝ่ายเสียวว่าจะเป็นแบบ”โควิดภาคแรก”ที่มีการ”ล็อกดาวน์”จนส่งผลกระทบ”ความเป็นอยู่”ของประชาชน ที่แม้จะมีการให้ความช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทั่วถึงจนเกิดดราม่ามากมายจนครั้งนั้น”ลุง”ก็อ่วมในตอนหลัง”โควิด”ซา ไม่น้อย ทำให้ครั้งนี้”ลุง”ยังไม่อยากให้กระทบไปถึง”ระบบเศรษฐกิจ”โดยเฉพาะจากตัวเลขเมื่อวานที่”ลุง”ปลอบใจตัวเองและทุกฝ่ายว่า”ตัวเลข”ติดเชื้อในประเทศ เริ่มลดลง และน่าจะควบคุมได้จากการ”รุกตรวจ”แรงงานต่างด้าวได้อย่างรวดเร็ว และให้ทางกองทัพเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้รองรับ ขณะก็แยกเรื่อง”สาเหตุ”กับ”ขบวนการขนแรงงานเถื่อน”ออกมาให้ฝ่ายมีหน้าที่เข้าไปจัดการ แม้ว่าจะเกิด”เอฟเฟ็กต์”จาก”ผู้ประกอบการ”ที่ตื่นข่าวคำขู่ของ”ลุง”กลัวจะโดนโทษหนักทั้งจำปรับไปเท”แรงงานต่างด้าว”ตามที่ต่างๆ ที่ถือว่าเป็นแอ๊คชั่นที่ส่งผลการสกัดไม่น้อย จนโฆษกตำรวจบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก อย่าเอาคนงานไปทิ้งให้โรงงานมาเคลียร์เรื่องโควิดก่อน “อย่าเพิ่งพูดถึงข้อกฎหมายเรื่องอื่น”ทำนองว่าจะไม่จับ มาร่วมมือกันตรวจโควิดก่อน กระนั้นปมที่น่าสนใจกับ”สัญญาณ”ที่ถูกส่งผ่านจาก”หมอทวีศิลป์”เมื่อวานกับการขอความร่วมมือให้หน่วยงานเกี่ยวข้องรวมถึงจังหวัดต่างๆส่ง”ข้อมูลรวมศูนย์”ให้ ศบค.แบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์ที่วางไว้ เพื่อป้องกัน”ความสับสน”ของ”ข้อมูล” ที่เป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้การตัดสินใจของ”ศบค.”มีปัญหาจาก”ข้อมูล”ที่หลุดมาจากช่องทางอื่นๆจนเกิดแรงกระเพื่อมกดดันการทำงาน ซึ่งก็สอดรับกับที่มีการให้แต่ละจังหวัดไปตัดสินใจเคาะเองว่าตัวเองอยู่”โซนสีอะไร” ไม่นับรวมบางจังหวะที่ฝั่งกระทรวงแรงงานไปจนละทางกับฝั่งศบค.ดังเรื่องสถานที่กักกันชั่วคราวชายแดนก่อนหน้า ที่ทำให้ถูกมองจากหลายฝ่ายว่าแต่ละกระทรวงเหมือนจะให้น้ำหนักกับ”ศบค.”น้อยไปกว่า”โควิดภาคแรก”หรือไม่ ที่แน่นอนในระยะที่ยังไม่”ฉุกเฉิน”อาจไม่เป็นไรแต่ถ้าในยามวิกฤติ หากยังเป็นเช่นที่เป็น ก็น่าที่”ลุง”จะต้องกังวลไม่น้อย.