นายกฯขอบคุณสหรัฐฯมอบ ไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส พร้อมย้ำ จัดสรรตามแผน ฉีดบุคลากรการแพทย์ด่านหน้า กลุ่มเป้าหมายเท่านั้น ห้ามมีวีไอพีเด็ดขาด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการรับมอบวัคซีน ไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ที่สหรัฐอเมริกามอบให้แก่ประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานการมาถึงของวัคซีนไฟเซอร์แล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณในไมตรีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีต่อประเทศไทยเสมอมา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดนี้
พร้อมได้เน้นย้ำว่าการกระจายวัคซีนจะต้องเป็นไปตามแผนที่กำหนด เน้นการฉีดแก่บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น จะต้องไม่มีกรณีจัดสรรไปยังบุคคลสำคัญ หรือนอกกลุ่มที่กำหนดไว้เป็นอันขาด
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่คณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำหนดว่าจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ลอตแรก 1.54 ล้านโดส ประกอบด้วย
1.บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) 700,000 โดส
2.ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีสัญชาติไทย 645,000 โดส
3.ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์
ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา 150,000 โดส
4.ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส
5.สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ จำนวน 40,000 โดส
นายกฯ เรียกถกบริหารจัดการหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ รพ.เอกชน พร้อมจับตาแผน แผนกระจายไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส
ความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เช้าวันนี้ ยังคงปฏิบัติงานตามปกติ ก่อนในช่วงบ่ายเป็นประธานการประชุมหารือการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) และโรงพยาบาลเอกชน (ผ่านระบบ Video Conference)
ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ผอ.ศปก.ศบค.) ก็มีการประชุมหารือร่วมกันปกติ กับที่ประชุมศูนย์อีโอซี กระทรวงสาธารณสุข
โดยคาดว่าจะมีการหารือถึงแนวทางการกระจายวัคซีนที่มีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน รวมไปถึงวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้าน โดส ที่เข้ามาในช่วงเช้ามืดวันนี้ เพื่อเป็นวัคซีนบูธเตอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า
โดยก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ให้สัมภาษณ์ในกรณีที่วัคซีนไฟเซอร์ที่มีความหนืด จึงต้องมีการผสมน้ำเกลือในอัตราที่เหมาะสม จึงอาจต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมไปถึงอาจมีการหารือเรื่องสถานการณ์เตียงที่มีไม่เพียงพอในพื้นที่สีแดงเข้ม
“อนุทิน” ตรวจรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ช่วยเหลือประเทศไทยสู้โควิด-19 ย้ำกระจายตามแผน
ที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารเดินทางไปตรวจรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้ไทย
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ได้มอบวัคซีนให้กับประเทศไทยเพื่อป้องกันโรคระบาด ซึ่งการกระจายวัคซีนชุดนี้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ ทั้ง 1.5 ล้านโดส จะต้องเก็บภายใต้อุณหภูมิ -70 ถึง -90 องศาเซลเซียส เพื่อคงประสิทธิภาพของวัคซีน หลังจากนั้นจะกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศตามแผนการฉีดที่กำหนดไว้
กลุ่มที่ 1 บุคลากรทางการแพทย์เพื่อเป็นบูสเตอร์โดสเข็ม 3
กลุ่มที่ 2 ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง รวมทั้งหญิงมีครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
กลุ่มที่ 3 ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเน้นไปที่ผู้สูงวัย และ 7 กลุ่มโรค
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news