ลาก่อน “นิชิโนะ” ผลงานไม่ตามเป้า
ภายหลังที่ สมาคมฟุตบอลไทยฯ แจ้งการยุติสัญญากับ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากผลงานทีมชาติไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมายของสมาคมฯ
จากการที่ เเยกทาง นิชิโนะ แน่นอนสิ่งที่ตามมาคือ เงินที่ต้องจ่าย เพราะสัญญากุนซือญี่ปุ่นยังเหลืออีกราว 5 เดือน เเต่เชื่อว่าการจ่ายเงินค่าชดเชยให้ นิชิโนะ คงไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะว่าสมาคมฟุตบอลไทยฯ ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าสัญญาคงไม่ยุติสัญญากับทางนิชิโนะเป็นเเน่
หากพูดถึง อากิระ นิชิโนะ ได้เข้ามาคุมทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ก.ค. 2019 โดยที่ผ่านมามีประสบการณ์กับทีมชาติญี่ปุ่น ทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน โดยติดทีมชาติ 12 นัด ระหว่างปี 1977–1978 และเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่น ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี, 23 ปี รวมถึงทีมชาติชุดใหญ่ ที่พาทีมเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
ส่วนผลผลงานที่ อากิระ นิชิโนะ คุมทีมชาติไทย ชุดใหญ่เฉพาะเกมอย่างเป็นทางการในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 ที่ผ่านมา ทั้งหมด 8 เกม ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 3 เก็บได้ 9 คะแนน จบด้วยอันดับรองบ๊วยของกลุ่มจี โดยเป็นรองทั้งเวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อนร่วมอาเซียนของเรา
นอกจากนี้ยังได้คุมทีมชาติไทย ชุดยู 23 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพเมื่อต้นปี 2020 ซึ่งก็สามารถะาทีมผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ได้สำเร็จ แต่ก้จอดเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังพ่ายซาอุดีอาระเบีย
ขณะที่ อีกรายการคือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2019 ก็พาทีมชาติไทย ตกรอบแรก ทั้งหมดคือผลงานของกุนซือญี่ปุ่นตลอดการเป็นกุนซือทีมชาติไทยในระยะเวลา 2 ปีกับอีก 12 วัน
จากนี้ความน่าสนใจอยู่ที่ใครหน้าที่ เฮดโค้ชทีมชาติไทย คนต่อไป ในสถานการณ์โควิดระบาดอย่างหนักเช่นนี้และผลงานที่น่าผิดหวังของทีมชาติเวลานี้ เเละประเด็นสำคัญ ตามข้อกำหนด ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่จะต้องถือใบอนุญาตการเป็นผู้ฝึกสอนในระดับโปรไลเซนส์ ซึ่งอาจจะเป็นโค้ชจากต่างชาติหรือโค้ชไทย ได้ทั้งหมด
ตัวเลือกเวลานี้อาจมีเพียง อนุรักษ์ ศรีเกิด กับ อิสสระ ศรีทะโร ที่พอได้ เเต่ถ้าจะสน ธชตวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน, อเล็กซานเดร กามา , เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ,สุรชัย จตุรภัทรพงศ์,จเด็จ มีลาภ เป็นต้นทั้งหมดนี้ปัจจุบันที่ถือใบอนุญาตระดับโปรไลเซนส์ และมีสิทธิ์คุมทัพ “ช้างศึก” เเต่ปํญหาคือ มีสัญญากับต้นสังกัด หากจะไปดึงมาก็ต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาเเพงเลยทีเดียว เเละคิดว่าสโมสรจะยอมง่ายๆเเน่นอน
เเต่ถ้าเป็นกุนซือต่างชาติ ในช่วงสถานการณ์โควิดเเบบนี้ไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะฟุตบอลลีกเมืองไทยยังไม่ได้เเข่ง และฟุตบอลทีมชาติเหลือแค่ทัวร์นาเมนต์เดียวในปีนี้ เเละสำคัญราคาค่าจ้างสูงมากเเน่นอน
ฉะนั้นเเล้ว อนุรักษ์ ศรีเกิด กับ อิสสระ ศรีทะโร ตอนนี้น่าจะเหมาะสมที่สุด ขัดตาทัพได้ก่อน เพราะทั้งสองคนนี้รู้จักมักคุ้นนักฟุตบอลในประเทศไทยเป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ต้องจ่ายแพงด้วยในชั่วโมงนี้
แต่อย่างไรก็คงได้แค่รอดูการเปิดตัวเฮดโค้ชทีมชาติไทยต่อไปว่า สมาคมฟุตบอลไทยฯ จะเลือกใครมาเเทนที่ นิชิโนะ เเละสุดท้ายเราต้องให้กำลังใจทีมชาติไทยกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news