ก้าวไกล ยื่นประธานสภา พิจารณาการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ เกินหลักการเห็นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
นายธีรัจชัย พันธุมาศ และ รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ … พ.ศ….รัฐสภา(มาตรา 83 และ มาตรา 91) แถลงข่าว ต่อกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย จับมือกันแปรญัตติ แก้ไขเนื้อหารัฐธรรมนูญ มาตรา 83 และมาตรา 91 นอกเหนือจากที่เนื้อหารับหลักการจากสภาในวาระที่ 1
จึงได้เข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติด่วน ให้สภาตีความตามข้อบังคับที่ 151 ก่อนการพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 และ 3 ในวันนี้ ว่า มีการตีความแก้ไขเกินเลยไปหลายมาตรา โดยเฉพาะบทเฉพาะกาลที่ให้อำนาจ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกข้อกำหนดการเลือกตั้งเองได้ ซึ่งเป็นการมอบอำนาจนิติบัญญัติ หรืออำนาจการออกกฎหมายไปให้ กกต. ทั้งออกแบบ และจัดการเลือกตั้งเอง แบบนี้ต้องถามว่ามีความชอบหรือไม่
นอกจากนี้ การแก้ไขอีกหลายมาตรา เช่น 85, 86, 92, 93 และ 94 เหล่านี้ เป็นการแก้ไขเกินหลักการ และจะอาศัยเสียงข้างมากตามอำเภอใจหรือไม่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่การดำเนินการตามหลักนิติธรรม แต่การพิจารณากฎหมายฉบับนี้มีความพยายามพิจารณาให้เกินเลย ไปจนเหมือนกับว่าจะเอาร่างพลังประชารัฐ กับเพื่อไทย มาใส่ให้ได้ ทั้งที่ถูกตีตกไปแล้วในวาระที่ 1 และทั้งสองพรรคพิจารณาแบบเอื้ออาทร และเป็นมิตรต่อกัน อย่างไม่เคยมีมาก่อน แม้มีความพยายามคัดค้านใน กมธ. แต่ก็มีการใช้มติเสียงข้างมากเดินไปอย่างเร็ว
ดังนั้น จึงเห็นว่าสมควรยื่นให้สภาพิจารณาอีกครั้งว่า การแก้ไขเกินหลักการเหล่านี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยพรรคก้าวไกลทำหนังสือเสนอต่อประธาน และมีรายชื่อครบถ้วนตามข้อบังคับแล้ว
ด้านนายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในกมธ.กล่าวเพิ่มว่า ตนรู้สึกผิดหวังการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้และเชื่อว่าจะไม่นำพาไปสู่การแก้วิกฤตการเมืองได้ พร้อมยืนยันว่า การยื่นญัตติในวันนี้คือการตรวจสอบข้อกฎหมายก่อนพิจารณาร่างแก้ไข ไม่ใช่การตีรวนแต่คือการตรวจสอบการกระทำสอดไส้กฎหมายด้วยข้อบังคับ 151 ผ่านการยื่นญัตติไม่น้อยกว่ากว่า 40 คน ซึ่งญัตติที่จะยื่นวันนี้ มีการลงชื่อครบถ้วน
“รังสิมันต์” ขอเจ้าหน้าที่ใช้ความอดทนในการควบคุมการชุมนุม พร้อมยืนยันหากจะแก้ปัญหาเรื่องการชุมนุม อย่าทำเกินกว่าเหตุ
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุในการดูแลการชุมนุม ว่า เรื่องนี้ตนเป็นห่วงมาโดยตลอด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาความรุนแรงไม่มากเท่านี้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ชุมนุม รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง เกินกว่าสามัญสำนึกของคนทั่วไปที่จะเข้าใจ สุดท้ายจึงมีบางคนเริ่มมีการตอบโต้กลับ เช่น ใช้หนังสติ๊ก และอุปกรณ์อื่นๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ยิ่งยกระดับความรุนแรง สุดท้ายจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
ดังนั้น ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกฝึกมา ใช้ความอดทนอดกลั้น และคนที่เป็นผู้บัญชาการจะต้องไม่ใช้เจ้าหน้าที่ในทางที่เป็นศัตรูกับประชาชน ซึ่งขณะนี้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ อยากให้ถอยไปในจุดที่สามารถประนีประนอม ซึ่งยังไม่สายเกินไปที่จะทำให้ความรุนแรงไปไกลกว่านี้
ตราบใดที่ยังไม่ถึงขั้นไปยึดสถานที่ราชการ การใช้ความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ทำอยู่นั้น ถือว่าเกินกว่าเหตุทั้งสิ้น และยืนยันหากจะแก้ปัญหาเรื่องการชุมนุม อย่าทำเกินกว่าเหตุ และ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด ควรแก้ปัญหาด้วยการเมือง ด้วยการทำเศรษฐกิจให้ดีกว่านี้ จัดการโควิดได้ดีกว่านี้ นำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพมาให้ประชาชน เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะทุเลาลง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news