“สุทิน” ยันไม่มีดีลลับกับ “วิรัช” ถอนชื่อ “พล.อ.ประวิตร” ออกจากซักฟอก ยึดข้อมูลหลักฐาน เน้นความผิดใหม่ที่ชัดเจนเรื่องโควิด
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่พอใจที่ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อยู่ในรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ว่า ช่วงหลังมานี้มีปัญหาอยู่เรื่อย จึงใช้กระบวนการกลุ่ม คือหารือร่วมกัน ตัดสินใจร่วมกันทำงานร่วมกัน เพราะฉะนั้นในการอภิปรายครั้งนี้คิดอยู่เหมือนกันว่าจะเกิดปัญหา เลยคุยกันว่า การกำหนดตัวผู้อภิปรายหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องก็จะมาคุยกันและตัดสินใจร่วมกัน นี่เป็นคนทางเดียวที่ทำให้เกิดความขัดแย้งน้อยที่สุดและเดินหน้าต่อไปได้ ไม่มีระบบใดที่ดีไปกว่าการใช้กระบวนการกลุ่ม หากไม่เคารพกระบวนการกลุ่มก็ทำงานต่อไปไม่ได้ ซึ่งในที่ประชุม บางพรรคเสนอชื่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แต่น้ำหนักและหลักฐานไม่มากพอจึงตกไป และยังมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่มีหลักฐานใหม่ที่ต่างจากเดิม ก็ตกไป เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร ที่ข้อมูลยังเบาบาง ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้มีการเน้นไปที่ความผิดใหม่ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องโควิด-19 เรื่องเศรษฐกิจ และทุจริตในบางเรื่อง ดังนั้นบุคคลที่บางพรรคเสนอมาก็ต้องตกไป และเมื่อสรุปได้แล้วอาจมีความพอใจหรือไม่พอใจกันบ้าง เพราะหากไม่มีข้อจำกัดเลยเสนอใครมาอภิปรายหมดก็ไม่ใช่เพราะคุณภาพรวมสำหรับพรรคที่เป็นผู้นำก็ต้องคิด
พร้อมกันนี้ นายสุทิน ยอมรับว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ได้ประสานมาพูดคุย ซึ่งถือว่าเรื่องธรรมดาที่มีการโทรมาล็อบบี้ แต่ไม่มีการดีลกันแน่นอน
“สุทิน”ไม่เข้าใจเจตนาของก้าวไกล ย้ำไม่มีมูล-แรงจูงใจต้องซักฟอก “ประวิตร-ธรรมนัส”
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ไม่อภิปราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการดีล กันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับรัฐบาล ตนมองว่า ได้ไม่คุ้มเสียเพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่คงไม่คิดเป็นรัฐบาลแบบไม่ลืมหูลืมตา มีแฟนคลับ มีสมาชิกจำนวนมากและเคยเป็นรัฐบาลมาแล้ว หลายสมัย ต้องมองถึงอนาคตจะไป กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นรัฐบาลด้วยการแลกมา จากความช้ำใจของประชาชนที่สนับสนุนพรรค ส่วนตัวมองว่ามันไม่คุ้ม และยิ่งไปร่วมรัฐบาลกับคนที่สังคมไม่มียอมรับ ก็ยิ่งเป็นการฆ่าตัวตาย โอกาสเพื่อไทยยังมีอีกเยอะ ตราบใดที่มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อไทยก็ยังมีความหวัง
อย่างไรก็ตาม ไม่เข้าใจถึงเจตนาของพรรคก้าวไกลเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น จึงไม่เข้าใจเจตนาของพรรคก้าวไกลเพราะไม่มีมูลเหตุหรือแรงจูงใจ เพราะก่อนที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็รอ พรรคก้าวไกล จนนาทีสุดท้าย ซึ่งที่ผ่านมาก็ระวัง ในการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news