“ประวัติ”นำทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทยชุดที่สอง เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น ตรวจโควิด-19 ฉลุยพร้อมลุย พาราลิมปิก โตเกียว 2020
ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทยชุดที่สอง ประกอบด้วย ทีมกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง นำโดย ประวัติ วะโฮรัมย์ และ พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรสซิ่ง ซึ่งทั้งสองคนเป็นเจ้าของ 2 เหรียญทอง พาราลิมปิก 2016, ยิงธนู ที่มี หาญฤชัย เนตศิริ ดีกรีเหรียญเงิน ริโอ เกมส์ นำทัพ พร้อมด้วย นักกีฬายูโด, ยกน้ำหนัก, วีลแชร์เทนนิส และสตาฟฟ์โค้ชเจ้าหน้าที่ทีม รวมทั้งสิ้น 43 คนได้เดินทางประเทศญี่ปุ่นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมลุย พาราลิมปิก โตเกียว 2020 ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม – 5 กันยายน นี้
ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง และเมื่อถึงยังสนามบินของ ประเทศญี่ปุ่น คณะนักกีฬาของประเทศไทยได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันของประเทศญี่ปุ่นทันที ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยผลการตรวจนักกีฬาไทย ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด -19 จากนั้นทัพนักกีฬาไทยก็เดินทางเข้าที่พักในหมู่บ้านนักกีฬา
พลตรี โอสถ ภาวิไล เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “นักกีฬาไทยเริ่มทยอยเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม อาจจะติดขัดเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่สนามบิน ต้องใช้เวลานานพอสมควร ราว 3 ชั่วโมง กว่าจะออกเดินทางเพื่อเข้าห่มูบ้านนักกีฬาได้ ซึ่งทุกคนมีผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งท่านประธานพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ก็ได้สอบถามด้วยความห่วงใยถึงนักกีฬามาตลอดว่ามีความเป็นอยู่กันอย่างไร ขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลนักกีฬาให้ดีที่สุด ก็ต้องขอบคุณท่านประธานที่ได้ส่งสารมาถึงนักกีฬา โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อให้นักกีฬาพร้อมแข่งขันมากที่สุด”
โดย “ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย” ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยใน “พาราลิมปิก โตเกียว 2020” ในปีนี้ มีทั้งหมด 74 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากที่สุด มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สำหรับผลงานของทัพนักกีฬาไทยใน “พาราลิมปิกเกมส์ 2016” ที่ กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ทั้งสิ้น 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news