ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มติเสียงข้างมาก 242 ต่อ 124 เสียง ผ่านงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ตามที่คณะกรรมาธิการฯ ปรับแก้ลดงบประมาณราว 60 ล้าน จากที่เสนอขอมาทั้งหมดกว่า 37,000 ล้านบาท หลังใช้เวลาพิจารณาราว 4 ชั่วโมง ซึ่ง ส.ส.ส่วนหนึ่ง ตำหนิการจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่เป็นหน่วยงานหัวใจสำคัญแก้ปัญหาโควิด-19 แต่กลับได้รับงบประมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมาและไม่มีงบที่น่าจะเพียงพอ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 และยังมีงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ที่ควรตัดเพื่อมาใช้ในการแก้ไขสถานการณ์พร้อมตำหนิถึงการแก้ปัญหา และการบริหารจัดการวัคซีน รวมถึงการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ อาทิ รายการครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับโครงการปลอดพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดีมีจำนวนมากกว่า 695 รายการ เป็นเงินกว่า 140 ล้านบาทแต่รายการครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19กลับมีจำนวนน้อยและอาจไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
จากนั้น ที่ประชุม พิจารณามาตรา 26 งบประมาณของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกระทรวงสุดท้าย ที่ก่อนที่ที่ประชุม จะเข้าสู่การพิจารณางบประมาณของหน่วยงานไม่สังกัดกระทรวง ศาล องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการประชุมว่าจะสามารถอภิปรายและจบในวันนี้ หรือไม่ หลังนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ขอให้ ส.ส.เร่งรัดการอภิปราย เพื่อให้การพิจารณาจบภายในวันนี้ แต่หากไม่จบภายวันนี้ จะขอให้ที่ประชุม พักการประชุมในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) และมาประชุมต่อในวันที่ 23 สิงหาคม
ทั้งนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ได้หารือกับประธานในที่ประชุมว่า ตามระเบียบวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ขอขอบคุณสมาชิกทุกคน ถ้าเป็นไปได้อยากขอให้สมาชิกอภิปรายให้จบภายในวันนี้ จึงอยากขอความร่วมมืออภิปรายในประเด็น เพราะเป็นประธานวิปรัฐบาลต้องพยายามบริหารเวลาทั้งหมดที่เหลืออยู่ ถ้าไม่จบภายวันนี้ขอหยุดในพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) และต่อในวันที่ 23 ส.ค. 64 เพราะมีภารกิจยาวและต่อเนื่องในการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 24-25 ส.ค.นี้ รวมทั้งยังมีญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลรอไว้อยู่แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
