พณ.ตั้งเป้าส่งออกผลไม้โต 30% สร้างรายได้เข้าประเทศ ช่วง 7 เดือนยอดส่งออกทะลุ 1.3 แสนลบ. เดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมต่อเนื่อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานความตกลงซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า (MOP) โดยระบุว่า ผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าเป้าหมายสำคัญในการส่งออกเพื่อทำรายได้ให้กับประเทศ โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีการส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปมีมูลค่าสูงกว่า 1.3 แสนล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.31 โดยตั้งเป้าหมาย การส่งออกผลไม้ไทยในปีนี้ ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 คิดเป็นมูลค่าที่ 1.8 แสนล้านบาท
โดยมีแผนในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ที่สำคัญ คือ การจัดกิจกรรมจัดคู่เจรจาทางการค้าออนไลน์ (OBM) กิจกรรมการส่งเสริมการขายการบริโภคผลไม้ในห้างสรรพสินค้าและตลาดสำคัญในต่างประเทศ การจัด Thai Fruits Golden Months และ กิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆโดยเฉพาะแพลตฟอร์มสำคัญในระดับโลก เช่น bigbasket.com ของอินเดีย Tmall ของจีน
ซึ่งการจัด Thai Fruits Golden Months ในประเทศจีน ซึ่งช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาได้จัดไปแล้วใน 8 เมือง สามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่า 15,466 ล้านบาท และยังมีแผนงานที่เหลืออีก 5 เมือง คือ เซี่ยเหมิน หนานชาง คุนหมิง อู่ฮั่น และหนานหนิง ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และสำหรับการเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้ในประเทศ ทั้งภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือ สามารถสร้างมูลค่าได้แล้วกว่า 4,141 ล้านบาท โดยกิจกรรมในวันนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการเจรจา มีการประกาศการจับคู่ที่กำหนดการส่งมอบที่เป็นรูปธรรมแล้วจำนวน 21 คู่ เป็นเงินซื้อขายจริงที่จะชำระ 2,394 ล้านบาท เป็นความตกลงซื้อขายผลไม้ส่งออก หรือ MOP ของผู้ส่งออกของไทย 21 บริษัทผู้นำเข้า 21 บริษัทจาก 16 ประเทศ ผลไม้สำคัญประกอบด้วย ทุเรียน มะม่วง ลำไย มังคุดและมะพร้าว
นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายพาณิชย์จังหวัด และ ทูตพาณิชย์ ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ ช่วยเจรจาจับคู่เพื่อระบายผลไม้ที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะลำไยภาคเหนือและลองกองจากภาคใต้ โดยขอให้ทีมเซลล์แมนประเทศประจำสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศเร่งหาตลาดระบายผลไม้เพิ่มเติม และให้วางแผนล่วงหน้าเชิงรุก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news