โฆษก ศบค. ยืนยัน ไม่มีล็อกดาวน์ แบ่งพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ 4 รูปแบบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายหลังประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือต่อมาตรการป้องกันโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัย หากไปในพื้นที่เสี่ยง หากเป็นไปได้ให้อยู่บ้าน 14 วัน และถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์ พร้อมขอความร่วมมือนายจ้าง ให้ดำเนินการนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้มองแรงงานต่างด้าวเหมือนเพื่อนบ้าน และตำหนิคนที่ทำผิดกฎหมาย แสวงหาผลประโยชน์
หลังจากนั้น นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงยืนยันว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ ไม่มีคำว่า “ล็อกดาวน์” แต่ที่ประชุมศบค.ได้มีมติให้มีการแบ่งพื้นที่ตามสถานการณ์ความรุนแรงของการระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อกำหนดมาตรการให้เหมาะสมตามแต่ละสถานการณ์ โดยมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการตามกรอบที่ ศบค.กำหนด
สำหรับการแบ่งพื้นที่ตามสถานการณ์ระบาด ได้มีการแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่ดังนี้
1.สีแดง พื้นที่ควบคุมสูงสุด หมายถึงพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และพบมากกว่า 1 พื้นที่ (ย่อย) คือ จังหวัดสมุทรสาคร
2.สีส้ม พื้นที่ควบคุม หมายถึงพื้นที่ที่ติดกับพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ราย และแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น (สมุทรสงคราม,ราชบุรี,นครปฐม,กทม.)
3.สีเหลือง พื้นที่เฝ้าระวังสูง หมายถึง พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ (สระบุรี,สมุทรปราการ,สุพรรณบุรี,นนทบุรี,ปทุมธานี, ฉะเชิงเทรา, เพชรบุรี, อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์, พระนครศรีอยุธยา, ภูเก็ต, กำแพงเพชร, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, ขอนแก่น,กระบี่,ชัยนาท,อุดรธานี,พิจิตร,นครศรีธรรมราช,สุราษฏร์ธานี,ประจวบคีรีขันธ์,ชัยภูมิ,นครสวรรค์,อ่างทอง)
4.สีเขียว พื้นที่เฝ้าระวัง หมายถึงพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ (จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ)
