กต.ยันไทยไม่มีปัญหาความสัมพันธ์จีน
กต. ยันไทยไม่มีปัญหาความสัมพันธ์จีน ชี้ข้อตกลงรถไฟความเร็วสูง สัญญาซื้อข้าวและยางพาราเป็นคนละเรื่องกัน
นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีมีบางฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไทยกับจีนมีปัญหาในความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยยืนยันไทยมีความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีและใกล้ชิดกับนานาประเทศทั่วโลก รวมทั้งกับมหาอำนาจ เช่น ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ อินเดีย สหภาพยุโรป (EU) สหราชอาณาจักร และรัสเซีย เป็นต้น อีกทั้งไทยได้รักษาสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทุกมิติ อันเป็นรากฐานที่สำคัญของนโยบายการต่างประเทศไทยมาโดยตลอด และไทยไม่มีปัญหาใด ๆ ในความสัมพันธ์กับจีน รวมทั้งในเรื่องข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนารถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่าเป็นข้อตกลงพร้อมกับข้อตกลงที่รัฐบาลจีนจะซื้อ “ข้าวเน่า- ข้าวใหม่” และยางพาราจากรัฐบาลไทย โดยไทยดำเนินการโครงการ
รถไฟความเร็วสูงดังกล่าวล่าช้า ขณะที่จีนปฏิบัติตามข้อตกลงซื้อข้าวและยางพาราจากไทยแล้ว จนทำให้จีนไม่พอใจ นายธานีฯ ชี้แจงว่า ข้อตกลงรถไฟความเร็วสูงเป็นคนละข้อตกลงกันกับที่รัฐบาลจีนจะซื้อข้าวและยางพาราจากรัฐบาลไทย
ในกรณีโครงการรถไฟไทย – จีน รัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ลงนามบันทึกความเข้าใจและบันทึกความร่วมมือกันรวม 4 ฉบับระหว่างปี 2557-2559 และปัจจุบันทั้งสองฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการตามข้อตกลงต่าง ๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงที่ 1 ของโครงการก่อสร้างระหว่างกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมาซึ่งก็มีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ
ขณะที่ในกรณีการซื้อขายข้าวและยางพาราระหว่างรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศก็ได้หารือกันมาโดยตลอดเพื่อให้การซื้อขายเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ไม่มีการระบุถึง “ข้าวเน่า” ในข้อตกลงแต่อย่างใด
กต.ยันไทยมุ่งสร้างสันติภาพในเมียนมา ปัดสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่นักรบรับจ้างทำสงครามกับรัฐบาลเมียนมา
นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีกล่าวอ้างว่าชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย – เมียนมาได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่และ นักรบรับจ้างทำสงครามกับรัฐบาลเมียนมาผ่านไทย ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อจีน นายธานีฯ ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง ไทยให้ความสำคัญกับสันติภาพในเมียนมาเป็นลำดับแรกมาโดยตลอด ตลอดจนได้ร่วมกับอาเซียนอย่างใกล้ชิดในการสนับสนุนกระบวนการที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมาโดยสันติวิธี เพื่อประโยชน์ของชาวเมียนมาและการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค จึงเป็นไปไม่ได้ที่ไทยจะสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวก “นักรบ” หรือการขนส่งหรือลำเลียงอาวุธให้กับกลุ่มใดในเมียนมา
ส่วนที่มีการพาดพิงว่าทางการไทยอนุญาตให้สหรัฐฯ สร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ที่เชียงใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้างสูงมาก เพื่อใช้เป็นฐานติดตามความเคลื่อนไหวของจีน นายธานีฯ ย้ำข้อมูลที่ได้เคยชี้แจงมาแล้วว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ได้ขอปรับปรุงและเริ่มก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่ เนื่องจากที่ทำการเดิมมีพื้นที่คับแคบไม่ตอบสนองนโยบาย Under One Roof Policy ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประสงค์ให้บุคลากรทางกงสุลและหน่วยงานสหรัฐฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมดอยู่ที่เดียวกันและเพื่อรองรับการให้บริการด้านกงสุลแก่ชุมชนชาวอเมริกันและชาวต่างชาติในภาคเหนือตอนบน 15 จังหวัด
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ยังเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลใหญ่จีน สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น และสถานกงสุลอินเดียด้วย ซึ่งการจัดตั้งสถานกงสุลต่างประเทศในไทยของทุกประเทศรวมทั้งกระบวนการก่อสร้างอาคารที่ทำการเหล่านี้ อยู่ภายใต้หลักปฏิบัติสากล กฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายภายในของไทยที่เท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ นายธานี ได้ปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับการสนับสนุนยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกเพื่อต่อต้านรัสเซีย จีน อิหร่านและเกาหลีเหนือ ไทยมีนโยบายที่ สนับสนุนการขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกภูมิภาคภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific: AOIP) มิใช่การสนับสนุนการดำเนินนโยบายหรือยุทธศาสตร์ต่อประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news