และแล้วร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญ ด้วยการแถลงลาออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป
ซึ่งเป็นการตัดสินใจหลังจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด ที่ ร.อ. ธรรมนัส กลายเป็นขุนศึกที่ออกฤิทธิ์ออกเดชเหลือหลาย สามารถทำให้รู้สึกถึงความสั่นไหวในความสัมพันธ์ของคนในค่ายพลังประชารัฐรวมไปถึงได้เห็นความพยายามที่จะเขย่าศูนย์รวมอำนาจ อย่าง3ปอ. แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ต่อมา มีการเคลียร์ใจ ที่ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยร.อ.ธรรมนัส ได้ยกมือไหว้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมระบุว่า “ถ้าทำอะไรให้ท่านไม่สบายใจผมขอโทษ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยกมือรับไหว้ตามมารยาท โดย ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลือทั้งหมด นักข่าวไปเขียนกันเอง ตนไม่รู้เรื่อง เป็นเฟกนิวส์ ”
หลังคลื่นลมสงบลงชั่วคราว คำถามถึงอนาคตของ ธรรมนัส จึงน่าสนใจยิ่งนัก เพราะขณะนี้ สื่อบางสำนักต่างพากันลำเลียงชุดข้อมูลข่าวสาร ในทำนองว่าจะมีการ เช็กบิล ให้บทเรียนราคาแพงกับ ธรรมนัส ในหลากหลายรูปแบบทั้งในเรื่องของยึดคืนตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตำแหน่ง“เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ”
นอกจากนี้ยังมีข่าวปล่อยในทำนอง เป็นรายงานข่าววันประชุมคณะรัฐมนตรี ระหว่างที่รัฐมนตรีนั่งภายในห้องประชุม พลเอก ประยุทธ์ ตั้งใจเดินผ่านที่นั่งของรัฐมนตรี ซึ่งมีนายสาธิต ปิตุเตชะ ที่กำลังพูดคุยกับธรรมนัส โดยเมื่อทั้งสองเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เดินมา จึงยกมือไหว้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ รับไหว้นายสาธิต แต่เดินผ่าน ร.อ.ธรรมนัส ไปไม่มีแม้แต่หันมามอง ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส มีสีหน้าเจื่อนๆ
รายงานข่าวลักษณะนี้เพื่อเป็นการบ่งชี้ถึงความไม่ลงรอยกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และร.อ.ธรรมนัส แต่จะไปไกลถึงขั้นยึดคืนตำแหน่งต่างของร.อ.ธรรมนัสได้หรือไม่นั้น คำตอบอยู่ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร ครั้งหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกว่า “ผมมีวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคน ท่านสั่งสอนผมมา จะตีผมกันยังไง ผมไม่มีแตกอยู่แล้ว รักกัน เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ” นั้นบ่งบอกว่าอำนาจเด็ดขาดในรัฐบาลชุดนี้คือใคร
ดังนั้น ต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อนุพงษ์ อยากจะเขี่ย ร.อ.ธรรมนัส ให้พ้นเส้นทางอำนาจมากขนาดไหน แต่ถ้าพล.อ.ประวิตร ไม่ไฟเขียวแล้วก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งงานนี้แม้ชั่งน้ำหนักดูแล้วว่า การมีอยู่ของ ร.อ.ธรรมนัส นั้นยังมีความสำคัญ แม้เป็นเบี้ย แต่ก็เป็นระดับ เบี้ยมหากาฬ เพราะที่ผ่านมา เขาพิสูจน์ตัวเองมาแล้วหลายครั้งว่าในบริบทการเมืองบ้านเรา นักการเมืองแบบใจถึงพึงได้หรือระบบอุปถัมภ์ ยังมีความจำเป็นเสมอมา อีกทั้งผลงานอันโดดเด่นจากศึกเลือกตั้งปี 2562 ร.อ. ธรรมนัสล้มแชมป์เก่าจาก พท. ได้เป็น ส.ส.พะเยา เขต 1 ด้วยคะแนนเสียง 52,417 คะแนน พร้อมกับนำลูกทีมเข้าสภาได้ถึง 25 คน จาก ส.ส. ภาคเหนือทั้งหมด 61 คน ต่อมาฉายโชว์อีกในศึกเลือกตั้งซ่อมหลายที่เช่น ขอนแก่น ลำปาง นครศรีธรรมราช เขาก็เป็นหัวหอกทะลวงนำเด็กในสังกัดเข้าสภาได้ทุกครั้งไป
แต่สุดท้ายแล้ว แม้ ร.อ. ธรรมนัส ก็ไม่สามารถทนแรงเสียดทานได้จึงจำต้องพ้นจากเก้าอี้รัฐมนตรีไปแล้ว แต่ยังคงเป็นสส. ส่วนตำแหน่ง เลขาพรรคฯ นั้น ในอนาคตไม่มั่นคงเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งต้องจับตาว่า เส้นทางชะตากรรม”ธรรมนัส”ตัวเบี้ยมหากาฬจะเดินไปสุดทางที่ไหน และอย่างไร?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news