Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ตู้ปันสุข ตู้นี้มีแต่ให้

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลามานานกว่า 2 ปี ทำผู้คนตกงาน ขาดรายได้ และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน

สิ่งเดียวที่พอจะช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตนี้ เห็นจะมีเพียง น้ำใจจากผู้คนที่ยังพอมีสายป่านประคับประคองชีวิตประจำวันให้ผ่านพ้นไปได้ ด้วยการแบ่งปันสิ่งของ ให้กับผู้ตกยาก ตามกำลังของตนเองที่มีอยู่

กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงมีแนวคิดการนำ “ตู้ปันสุข” มาตั้งไว้ตามสถานที่และชุมชนต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเปิดโอกาสให้ผู้ใจบุญได้แบ่งปันนำสิ่งของหรืออาหารใส่ในตู้ พร้อมเชิญชวนภาคเอกชน บริษัท ห้างร้าน ผู้มีกำลังทรัพย์ เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่งปันช่วยเหลือสังคมด้วย

ทีมข่าว INN ลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศ ที่ สาธารณะ ทั้ง4 สวน ที่กทม.ได้จัดตั้งตู้ “สวนปันสุข” สำหรับใส่สิ่งของเพื่อแบ่งปันแก่ ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด มาตั้งไว้ในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย สวนลุมพินี เขตปทุมวัน สวนสราญรมย์ เขตพระนคร สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง และสวนสันติภาพ เขตราชเทวี ซึ่งพบว่าทั้ง 4 จุด มีประชาชนมารับสิ่งของที่ตู้ปันสุข ทั้งน้ำดื่ม อาหารแห้งและของสด รวมถึงมีผู้นำสิ่งของมาเติมในตู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วน เช่น สวนสันติภาพ ได้นำผักสดที่ปลูกไว้แพ็คใส่ถุงมาไว้สำหรับให้ประชาชนมาหยิบไปประกอบอาหาร

 

 

ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลแต่ละสวนสาธารณะ บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จะมีประชาชนนำสิ่งของมาเติมเป็นช่วงเวลาและมีประชาชนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาหรือมาใช้บริการสวนสาธารณะก็จะมาแวะหยิบของใช้หรืออาหารตามความเหมาะสม โดยระหว่างวัน จะมีผู้นำสิ่ง ของมาเติมในตู้ มีทั้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม และขนม

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัว คนตกงานเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมในหลากหลายรูปแบบ สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม การแบ่งปัน จากน้ำใจของผู้คนด้วยกันที่มอบสิ่งของ อาหารให้กับผู้ตกทุกข์ได้ยากจึงถือเป็น กำลังใจสำคัญช่วยบรรเทาความทุกข์ยากในยามนี้

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube