นายกฯ เป็นห่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงอาการสาหัส จากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน สั่งแพทย์ดูแลเต็มที่ ด้านโฆษกรัฐบาลประณามม็อบใช้ความรุนแรง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับรายงาน ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 5 กก.อารักขา 1 บก.อคฟ. ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดกระสุนปืนเข้าที่บริเวณศีรษะจนหมวกกันน็อกทะลุ ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณอพาร์ตเมนท์ ภายใน ซอยดินแดง 1 ประมาณ 23.15 น. วานนี้
ล่าสุด ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดนำสิ่งแปลกปลอมออกบางส่วนแล้ว หลังการผ่าตัดผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่สามารถหายใจด้วยตนเอง และยังต้องเฝ้าระวังอาการทางสมองรวมถึงการติดเชื้อจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ในหอผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลตำรวจ
นายธนกร เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ สั่งให้ทีมแพทย์และผู้บังคับบัญชาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามตนขอประณามการใช้ความรุนแรง ถือว่าไม่ใช่ชุมนุมอย่างสันติ เพราะมีการทำลายทรัพย์สินราชการ ใช้อาวุธ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายและดำเนินการจับกุมฝากย้ำไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังและผู้ก่อเหตุ ไม่เพียงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง ยังเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ด้วย
และในขณะเดียวกัน จนท.ตรวจพื้นที่หน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง พบระเบิดปิงปอง ใกล้ๆจุด คฝ.ถูกยิง รถภายในซอยเสียหายหลายคัน บริเวณซอยจตุรทิศ 2 แยก 23 หลังแฟลตดินแดง3 ที่เป็นจุดที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) ถูกยิงสาหัส เข้าที่หัวทะลุหมวก
ขณะเข้าควบคุมสถานการณ์ผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดง ซึ่งช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ อคฝ.ได้ตรึงกำลังเข้ม เพื่อคัดกรองผู้ที่จะเข้าพื้นที่หน้าคอนโดมิเนียมเบญจรงค์ และเข้าตรวจค้นหาวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่โดยพบระเบิดปิงปอง2กระเป๋าบริเวณซอยทรงดวง และมีการเก็บรถมอเตอร์ไซค์ต้องสงสัยไปหลายคัน
โดยชาวบ้านในละแวกนี้เล่าว่า ได้ยินเสียงดังช่วงเวลาประมาณ 22.00 ซึ่งดังกว่าปกติ เพราะกลุ่มมวลชนอิสระได้วิ่งเข้ามาภายในซอย และมีอคฝ. เข้าพื้นที่เป็นจำนวนมาก จนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนละแวกดินแดง
ทั้งนี้ ในพื้นที่ยังพบความเสียหายของรถกระบะที่จอดอยู่ภายในซอย โดยเจ้าของรถเล่าว่า ได้ยินเสียงดังเมื่อช่วงกลางคืน แต่ไม่คิดว่ารถของตนเองจะได้รับความเสียหาย จนเมื่อได้มาตรวจสอบช่วงเช้าพบว่ากระจกหลังรถแตกจากแรงกระแทกของระเบิดปิงปอง
ล่าสุด ผบ.ตร. เข้าตรวจสอบพื้นที่ หลัง อคฝ.ถูกยิง ศีรษะบาดเจ็บสาหัส ขณะชาวบ้าน ขอไม่ใช้พื้นที่ชุมชนเป็นจุดปะทะ คาดไม่ใช่คนพื้นที่ก่อเหตุ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าตรวจสอบอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยจตุรทิศ2 แยก23 เขตดินแดง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กก.อารักขา 1 ถูกยิงที่ศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะเข้าควบคุมสถานการณ์ผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดง
โดยขณะนี้ผ่านมากว่า 10 ชั่วโมง ตำรวจยังคงปิดล้อมตรวจค้นอพาร์ทเม้นท์ต้องสงสัย และพื้นที่ใกล้เคียงภายในบริเวณแฟลตดินแดง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่ภายใน ซึ่งยังหลงเหลือร่องรอยการปะทะกันตลอดทั้งซอย ทั้งกระสุนยาง และเศษขวดแก้วที่แตก โดยตำรวจยังเร่งหาพยานหลักฐาน และพยานวัตถุ เพื่อใช้ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุตัวจริง หลังมีการควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้มากกว่า 40 คน ซึ่งถูกนำตัวส่ง สน.ดินแดง และสน.พหลโยธิน เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ
ด้านชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ที่ผ่านมาในซอยเกิดเหตุไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งครั้งนี้ทำให้ตัวเองรู้สึกหวาดกลัวโดยเฉพาะช่วงเกิดเหตุการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมขี่จักรยานยนต์หลบหนีเจ้าหน้าที่เพื่อไปเส้นทางลัดไปซอยหมอเหลง แต่เจ้าหน้าที่ติดตามกดดันจนมาถึงที่เกิดเหตุจนทำให้มีตำรวจถูกยิง ก่อนจะมีการนำส่งโรงพยาบาล และขอฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผ่านเส้นทางนี้ได้ แต่ไม่ควรมาตั้งกลุ่มก๊วนภายในซอยเพราะจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เหตุการณ์นี้ ผบ. ตร. ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งการตรวจค้นพบอาวุธจำนวนมาก ส่วนตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังขยายผล แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร ส่วนเรื่องการวางกำลัง เมื่อวานมีการตรวจสอบพื้นที่ และสำรวจเส้นทางหลบหนี จึงมีการวางกำลังในจุดล่อแหลม ซึ่งไม่ใช่การไล่ล่า แต่เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ที่ตำรวจทำตามหลักยุทธวิธี โดยในรายละเอียดชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
