“ธนาธร” แนะเปิดภายในประเทศก่อน แล้วค่อยเปิดรับนทท.
“ธนาธร” แนะเปิดภายในประเทศก่อน แล้วค่อยเปิดรับนักท่องเที่ยวภายนอกเข้ามา แนะยกเลิพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ยืนยันว่า การประเทศมีความจำเป็น เพราะจะทำให้ประเทศกลับมามีชีวิตชีวา มีการค้าการขาย แต่ควรจะต้องเปิดจากภายในประเทศก่อน แบบค่อนเป็นค่อยไป คลายล็อกภายในให้ประชาชนในประเทศใช้ชีวิตได้อย่างปกติก่อนแล้วค่อยเปิดรับนักท่องเที่ยวภายนอกเข้ามา หลายประเทศก็ดำเนินการแบบนี้ เพราะไม่มีประเทศไหนที่อยู่ๆ เริ่มเปิดประเทศจากภายนอกโดยที่ภายในยังไม่มีการคลายล็อก
และจะเป็นปัญหาเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศต้องอยู่ภายใต้กรอบแบบเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงและรับประกันความปลอดภัย ของนักท่องเที่ยวและคนในชาติได้เลย ดังนั้นควรต้องทำให้มีความมั่นใจว่าเราสามารถควบคุมภายในได้แล้วจริงๆ แล้วจึงเปิดให้ภายนอกเข้ามา
ทั้งนี้ สิ่งที่อยากเห็นเวลานี้คือการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากเปิดประเทศโดยไม่ยกเลิก ก็เป็นที่ชัดเจนว่า คงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้เพื่อปราบปรามคนเห็นต่าง มากกว่าการควบคุมโควิด-19
นอกจากนี้ส่วนตัวยังอยากเห็นการเปิดโรงเรียน ให้ลูกหลานได้เรียนในโรงเรียน และการเปิดทำมาค้าขายให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตตามปกติ สำหรับกรณีที่ นายกรัฐมนตรี แถลงว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการปกป้องรักษาชีวิตนั้น นายธนาธรกล่าวว่า “พี่น้องประชาชนน่าจะตอบได้ดี”
“ธนาธร” เผยหนุนผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะการเลือกตั้งสำคัญกับคุณภาพชีวิตประชาชน จ่อแถลงผลานการบริหารท้องถิ่นของเทศบาลสัปดาห์หน้า
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้ากล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งสนามท้องถิ่น เพราะถือเป็นสนามเลือกตั้งสำคัญกับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งหากคณะก้าวหน้าไม่ห่วงใยประเทศชาติ คงไม่มาดำเนินการ และเชื่อมั่นในศักยภาพประเทศและคนในท้องถิ่นทั่วประเทศที่จะทำให้ประเทศดีกว่านี้ได้
จึงต้องการที่จะทำให้เห็น ผลักดันความเปลี่ยนแปลงให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อให้คนมีความหวังและเห็นว่าประชาธิปไตยยังมีความหมาย โดยเฉพาะ 1 สิทธิ 1 เสียง ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีกว่า ซึ่งหากแรงบันดาลใจเช่นนี้ผิดกฎหมาย ขอให้ผู้เกี่ยวข้องประกาศออกมาว่า “ธนาธร” ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทุกอย่าง
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะมีการแถลงผลงานการบริหารท้องถิ่นของเทศบาลที่คณะก้าวหน้าสนับสนุน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นผลงานที่ได้ทำงานอย่างหนัก ทั้งการแก้ปัญหาน้ำประปา การท่องเที่ยวชุมชน สวนสาธารณะ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
โดยยังวิเคราะห์ถึงสนามเลือกตั้งท้องถิ่น อบต.ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ว่าเป็นการเลือกตั้งขนาดใหญ่ 5,300 แห่ง จึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงเสียง 1 เสียงที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของประชาชน และยอมรับว่าการทุจริตเลือกตั้งซื้อสิทธิขายเสียงมีทุกระดับการเลือกตั้ง แต่ได้เพียงรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิให้มากที่สุด ตามเจตจำนงของตัวเอง
แกนนำคณะก้าวหน้า เข้าชี้แจงต่อ กกต. กรณี “ศรีสุวรรณ” ยื่นร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมเลียนแบบพรรคการเมือง
แกนนำคณะก้าวหน้า นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสาวพรรณิการ์ วานิช และนางสาวเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กรณีที่ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมเลียนแบบพรรคการเมือง จากการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น
โดยนายปิยบุตร กล่าวว่าเป็นคำร้อง เรื่องการกระทำเข้าข่ายผิดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 111 พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ มีคดีความจำนวนมากนับไม่ถ้วน และเรื่องนี่เกิดขึ้นช่วงการใกล้เลือกตั้ง อบต. คล้ายกับช่วงก่อนหน้านี้ที่คณะก้าวหน้าสนับสนุนผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง อบจ. ก็มีการร้องเรียน
ก่อนจะให้ข้อสังเกตว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นอิสระของผู้สมัคร ซึ่งตามกฎหมายไม่ต้องสังกัดพรรค ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีพรรคไหนส่ง เว้นแต่ อบจ.ที่ผ่านมา และตั้งคำถามทำไมมีแต่คณะก้าวหน้าที่ถูกร้อง ทั้งที่มีกลุ่มการเมืองอื่นๆในตระกูลบ้านใหญ่ ที่สมุทรปราการ หรือชลบุรีก็ส่งเช่นกัน แต่ไม่โดนร้องเรียน
หรือคนบางกลุ่มในประเทศจะกลัวอะไรพวกตน เล่นทุกวิถีทางสกัด ทั้งยุบพรรค ตัดสิทธิการเมือง ถามจะให้เอาลิควิดเปเปอร์ลบชื่อ “ปิยบุตร-ธนาธร” ออกจากแผ่นดินไหมถึงจะพอใจ ประเทศนี้จะอยู่กันแบบนี้หรือหรอถึงจะพอใจ ใครคิดเห็นไม่ตรงผู้มีอำนาจ ใครกำลังได้รับความนิยมเป็นความหวังของประชาชน คนมีอำนาจกลุ่มนี้ต้องเตะสกัดขัดขาทุกครั้ง
ขณะที่นายธนาธร เห็นว่าใกล้เลือกตั้ง ที่คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครลงแข่งขัน มักจะมีเรื่องคดีความกวนใจเข้ามาทำให้เสียสมาธิ เสียเวลา เสียเงินทอง หรือมีความประสงค์ที่จะทำให้คนที่คณะก้าวหน้าสนับสนุนเกิดความหวั่นไหวหรือไม่ และยืนยันเจตนาที่ดีเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ได้มาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news