ลุงตู่เปิดประเทศ-ลิซ่าเคาท์ดาวน์ หวังเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
เศรษฐกิจไทยขานรับทันที เมื่อนายกฯลุงตู่ออกทีวี ประกาศชัด 1 พฤศจิกายน เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2โดสเห็นได้จากปฏิกิริยาของตลาดหุ้นไทย 12 ตุลาคม ที่ปรับตัวขึ้นที 11 จุด หลังจากเปิดตลาด พร้อมกับหุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่ปรับขึ้นยกแผง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทันทีภาคเอกชนประเมิณว่า การเปิดประเทศครั้งนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มเติมเดือนละ 1 แสนราย ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ในปีนี้เติบโตอยู่ในกรอบร้อยละ 0-1 ได้ทั้งนี้ เมื่อกระแสเปิดประเทศจุดติด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ก็ไม่รอช้า ปิ๊งไอเดียดึง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” หรือ นางสาวลลิษา มโนบาล ศิลปินชาวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย และโปรโมทภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลกโดย ผู้ว่าการ ททท. นายยุทธศักดิ์ สุภสร บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจารายละเอียด คาดว่า ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะได้ข้อสรุปซึ่งททท.คาดหวังว่า การดึง “ลิซ่า แบล็กพิงก์”มาครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญที่จะนำพานักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับ เดินทางมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น
นอกจากนี้ ผู้ว่า ททท. ยังได้กล่าวถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 พฤศจิกายนตามนโยบายของรัฐบาลด้วยว่า จะทำให้การท่องเที่ยวในช่วงไฮซีชั่นมีความคึกคัก โดยคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากกว่า 1 แสนคนต่อเดือน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 หมื่นบาทต่อคน
ขณะที่ภาคเอกชนโดยนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. มองว่า การประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีนั้น ถือว่ามีความจำเป็นเพื่อที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว หากประเทศไทยไม่เปิดประเทศและเศรษฐกิจยังคงไม่ขยับตัวจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้ แต่อย่างไรก็ตามการเปิดประเทศนั้นรัฐบาลจะต้องมีการสื่อสารให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน ประกาศเงื่อนเวลาอย่างชัดเจนและกติกาในการเปิดประเทศช่วงใด ธุรกิจใดพื้นที่ใดสามารถประกอบกิจการได้ และมีเงื่อนไขที่จะต้องปฏิบัติอย่างไรต้องมีความชัดเจน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป รวมถึงในวันที่ 1 ธันวาคม เพราะหากไม่มีความชัดเจนเมื่อมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อโควิด-19เพิ่มขึ้น มีโอกาสเป็นไปได้
จากนี้ต่อไป จะต้องจับตาแผนโปรโมทการท่องเที่ยวไทยอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ของประเทศไทยอีกครั้งกับสถานการณ์โควิด-19 ที่จ้องทำนิวไฮนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news