ศบค.ปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเหลือ 23 จังหวัด
ศบค.ปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดหลือ 23 จังหวัด เคอร์ฟิว 5 ทุ่ม ถึง ตี 3 อย่างน้อย 15 วัน ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ห้างฯเปิดได้ถึง 4 ทุ่ม
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ว่า การปรับพื้นที่สถานการณ์การปรับมาตรการการป้องกัน โควิด-19 ในพื้นที่แบ่งเป็นลักษณะการแพร่ระบาดในชุมชนโดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต้องมีผู้ป่วยมากกว่า 100 รายต่อวันอย่างน้อย 1 วันใน 1 สัปดาห์ พื้นที่ควบคุมสูงสุด มีผู้ป่วย 1 สัปดาห์ 20-50 รายต่อวัน พื้นที่ควบคุมมีผู้ป่วยเฉลี่ย 1 สัปดาห์ 20 รายต่อวัน พื้นที่เฝ้าระวังสูงเฉลี่ย 1 สัปดาห์ น้อยกว่า 10 รายต่อวัน และพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพื้นที่ไม่มีผู้ป่วยอย่างน้อย 1 สัปดาห์
โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้มจาก 29 จังหวัดเหลือ 23 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือสีแดงจาก 37 จังหวัดเป็น 30 จังหวัดและพื้นที่ควบคุมสีส้มจาก 11 จังหวัดเป็น 24 จังหวัด
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มาตรการคือ ห้ามออกนอกเขตสถานตั้งแต่เวลา 23:00 น. ถึง 03:00 น. อย่างน้อย15 วัน ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด เปิดได้ถึง 22:00 น. สามารถจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภทสินค้า กิจการอื่นๆที่เปิดโดยกำหนดเวลา เช่น โรงภาพยนตร์, ศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า ดำเนินการตามปกติแต่เปิดได้ไม่เกิน 22:00 น.
สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการรับไปกลับได้ การขนส่งสาธารณะทุกประเภทปรับเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะ ศูนย์แสดงสินค้าศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการเปิดบริการคนต้องมีการเว้นระยะห่างซักเลี้ยงอาหารแบบแยกชุดเปิดบริการตามปกติไม่เกิน 22:00 น. และให้ขออนุญาตจากคณะกรรมการเค้าติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานครก่อนกรณีเกิน 50 คน
สำหรับทุกพื้นที่ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าเปิดบริการตู้เกมเครื่องเล่นร้านเกมยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดรยังไม่เปิดบริการสถานน้ำสวนสนุกทุกพื้นที่ สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ เปิดดำเนินการตามปกติแต่ไม่เกิน 22:00 น. กิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ปรับเพิ่มการรวมกลุ่มตามระดับพื้นที่ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดถึงเฝ้าระวังดังนี้ จาก 50 คนเป็น 100 คนจาก 200 คนเป็น 300 คนและจาก 300 คนเป็น 500 คน ด้านสถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ ให้กระทรวงมหาดไทยกรุงเทพมหานครร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค.นี้
ทั้งนี้นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องการปรับมาตรการสำคัญที่สุดคือความร่วมมือประชาชนผู้ประกอบการภาครัฐเราจะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่จะอยู่กับคุณ 19 หากที่ใดดำเนินการแล้วไม่เป็นผลดีก็ถูกสั่งปิดได้เหมือนเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news