ตำรวจน้ำ บุกจับ เรือบรรทุกลักลอบขนน้ำมันดีเซล 1.2 ล้านลิตร พร้อม รวบกัปตันกับพวกรวม 9 คน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. เข้าทำการจับกุมจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง โดยผิดกฎหมาย ซึ่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลผิดกฎหมายเข้ามาเพื่อจำหน่ายในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน จึงนำเรือตรวจการณ์พร้อมกำลังพลออกลาดตระเวน เมื่อไปถึงบริเวณปากร่องน้ำ เจ้าพระยา พบเรือบรรทุกน้ำมันสีดำ หัวเรือเขียนชื่อ MITA 1 กำลังแล่นเข้ามาในร่องน้ำเจ้าพระยา จึงสั่งการให้หยุดและเข้าทำการตรวจสอบ พบนายนิมิตร์ เป็นกับตันเรือ พร้อมลูกเรืออีก 8 คน
ผลการตรวจสอบผลของเหลวใสสีเหลืองคล้ายน้ำมันดีเซลบรรทุกอยู่ในระวางเรือจำนวนหนึ่ง เมื่อตรวจสอบจากทะเบียนเรือ พบว่ามีระวางเรือความจุ 1.2 ล้านลิตร เมื่อสอบถามถึงเอกสารการได้มาของสิ่งของดังกล่าว เอกสารทะเบียนเรือ และใบอนุญาตใช้เรือ ไม่สามารถนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ จึงควบคุมเรือเข้ามาและสั่งการให้ทิ้งสมอบริเวณปากคลองสรรพสามิต ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่สรรพาสามิต เพื่อร่วมทำการตรวจสอบ โดยตรวจเก็บตัวอย่างของเหลวคล้ายน้ำมันดีเซล ที่บรรทุกในระวางเรือเพื่อทำการตรวจสอบหาสารมาร์คเกอร์
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นน้ำมันดีเซลและพบค่าสารมาร์คเกอร์ มีความเข้มข้น 31 ซึ่งสารมาร์คเกอร์ดังกล่าวใช้สำหรับเติมน้ำมันส่งออกไปต่างประเทศ และได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เมื่อนำส่งออกไปแล้วจะไม่สามารถนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก หากนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ถือเป็นการลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นการกระทำผิดตาม
1. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242 ข้อหา ผู้ใดนําเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการ ศุลกากรฯ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน สิบปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ริบของนั้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคําพิพากษาหรือไม่ และ
2. พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 203, 204 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่เสียภาษี เพื่อจำหน่าย หรือ จำหน่ายโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับตั้งห้าเท่าถึงสิบห้าเท่าของค่าภาษีที่ต้องเสีย หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242 ถือเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news