“จุรินทร์” เผยพร้อมเปิดปท.-ไม่ห่วงส่งออกปี 64
“จุรินทร์” เผยพร้อมเปิดประเทศ แนะไทยเที่ยวไทยดัน GDP ในประเทศ ไม่ห่วงส่งออกปี 64 เน้นเอกชนเกาะติดข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเมธี อรุณ นักร้องนำวงลาบานูน โดยนายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีการเปิดประเทศ ว่า เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น เพราะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจกับโควิดต้องไปด้วยกัน จะต้องทำไปพร้อมกัน เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายการเดินหน้าเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งเศรษฐกิจตอนนี้มี 3 เรื่อง เร่งรัดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น, การท่องเที่ยวที่ชะงักจากนี้ไปการท่องเที่ยวนอกจากเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งไทยเที่ยวไทยเป็นอีกประเด็นที่ตนคิดว่าต้องสนับสนุน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามจังหวัดในประเทศไทยด้วยกันเอง และจะเป็นตัวกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเติบโตได้อีกครั้ง และการส่งออกซึ่งตนคิดว่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะทำงานร่วมกับเอกชนเต็มที่มีผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจนเชื่อว่าหลังจากเดือนก.ย.อาจกระทบตัวเลขส่งออกบ้าง แต่ยังเป็นบวกแน่นอน แต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.จะดีขึ้นไปอีก ตัวเลขการส่งออกปี 2564 ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเอกชนกับกระทรวงพาณิชย์จับมือกันแน่น เราเดินหน้าแก้ปัญหาเชิงรุกรวดเร็วมาก
ด้านเศรษฐกิจอื่นๆ กระทรวงพาณิชย์และตนเตรียมการล่วงหน้า เราไม่ทำเฉพาะเรื่องการทำตัวเลขส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่เราติดตามเฝ้าระวังภาวะเศรษฐกิจของประเทศเดินไปข้างหน้าในอนาคตด้วย เช่น 1.เศรษฐกิจของประเทศ Bio Economy มีความสำคัญอย่างยิ่ง คือ เศรษฐกิจชีวภาพที่เรามีต้นทุนความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีวัตถุดิบปัจจัยเงื่อนไขในประเทศสูง เราสามารถขับเคลื่อนไปได้ และระบบการค้าขายแบบอีคอมเมิร์ซ เป็นเรื่องที่ต้องรีบศึกษาทำความเข้าใจ เพราะข้อตกลงระหว่างประเทศทุกข้อตกลงมีการระบุเงื่อนไขเรื่องอีคอมเมิร์ซในนั้น ข้อตกลงระหว่างประเทศทั้ง FTA พหุภาคี เช่น RCEP หรือ APEC ภาคเอกชนต้องเร่งศึกษา และกระทรวงพาณิชย์ที่ตนเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีการค้าระหว่างประเทศและ APEC ตนก็นั่งเป็นประธาน เอกชนและทุกฝ่ายจะต้องติดตามประเด็นเพราะไปข้างหน้าเร็วมาก ทุกฝ่ายต้องเรียนรู้ไปพร้อมกันเพื่อเตรียมการให้เศรษฐกิจไทยในอนาคต
และสุดท้ายต้องติดตามสถานการณ์การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการแบ่งค่ายทางเศรษฐกิจการเมืองในระหว่างประเทศมหาอำนาจทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป จีน ออสเตรเลีย หรือกลุ่มประเทศอื่นๆ เพื่อกำหนดสถานการณ์สถานภาพของประเทศไทยว่าจะต้องยืนอยู่ตรงไหน และความสมดุลในการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศทางเศรษฐกิจและการเมืองอยู่ตรงจุดใด จะเป็นการบ้านที่เราต้องทำต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news