ศบค.กำชับเร่งเตรียมพร้อมเปิดประเทศ 3 ด้าน
ศบค.กำชับเร่งเตรียมพร้อมเปิดประเทศ 3 ด้าน เปิดพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัด เข้มมาตรการสาธารณสุข
แพทย์หญิงสุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้หารือกันถึงการเปิดประเทศที่นับจากวันนี้มีเวลาการเตรียมตัวเพียง 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยมีการหารือกับหลายหน่วยงาน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะออกแผนการท่องเที่ยว สำหรับรายชื่อประเทศ หรือเปิดเที่ยวบินนั้น บางประเทศยังไม่ได้อนุญาตให้คนออกนอกประเทศ แต่การเปิดเที่ยวบิน เป็นไปเพื่อการอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยในประเทศนั้นๆ ได้เดินทางกลับบ้าน
และวางแผนการเปิดประเทศเป็นระยะๆ โดยต้องมีการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ 3 ด้าน คือสถานการณ์การแพร่ระบาดต้องทรงตัว, ต้องมีการพิจารณาถึงขีดความสามารถของสาธารณสุข, ต้องมีการครอบคลุมการฉีดวัคซีนได้ไม่น้อยกว่า 70% ดังนั้น การเปิดประเทศจะต้องค่อยเป็นค่อยไปและต้องทยอยเปิด
แพทย์หญิงสุมณี กล่าวว่า ในหลักการของการเปิดประเทศระยะที่หนึ่งในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะต้องมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำโดยเดินทางมาทางอากาศหรือ เครื่องบินเท่านั้น, ผู้ที่มาจากต่างประเทศจะต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็ม ตามกำหนด และมีการตรวจ RT-PCR จากต้นทาง เป็นลบ พร้อมทั้งต้องทำประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 เหรียญสหรัฐ และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้วจะต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งในสถานที่กักตัวที่กำหนด
ทั้งนี้แพทย์หญิงสุมณี กล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน (18 ต.ค.64) ศปก.ศบค.จะมีการประชุมหารือถึงการเตรียมการรองรับการเปิดประเทศและความพร้อมเปิดพื้นที่นำร่อง ใน 17 จังหวัด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะร่วมหารือ อาทิ กระทรวงมหาดไทย ต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาธารณสุข ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม การบินพลเรือน บริษัทท่าอากาศยานไทย คมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. อย่างไรก็ตามภายหลังจากเปิดประเทศแล้วหากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง จะต้องมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุ กรณีที่มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ในวาระของการประชุมหารือในวันเดียวกันนี้ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news